ThaiBadminton
หน้าแรก สนามแบด เวบบอร์ด รีวิวไม้แบด รวมลิงก์ ช่วยเหลือ ติดต่อ เข้าระบบ สมัครสมาชิก

โปรดอ่าน
การปิดกระทู้
กฎการใช้ ลายเซ็นต์ ในเว็บ
กฎการใช้งานเว็บบอร์ด กรุณาอ่านให้เข้าใจก่อนโพสต์




/  หน้าแรกเวบบอร์ด
   /  คุยกันฉันเพื่อน
/  ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน
Page 2 of 3«1[2]3»
ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน                 


 
Thetenthoctober

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 11:34:06
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 576
เลขที่สมาชิก: 6571
สมัครเมื่อ: 29/1/2007

เอาใจช่วย ขอให้น้องหายไวๆ

--
http://www.facebook.com/groups/first.class.bc/
ข้อมูลส่วนตัว
 
Changggg

ขาโจ๋ประจำเวบ
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 12:44:47
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 2679
เลขที่สมาชิก: 3229
สมัครเมื่อ: 17/2/2006

บางทีอาจเป็นอาการที่เรียกว่า  "หายใจเร็วผิดปกติ"
.
มีพี่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า.....ขณะกำลังสอนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่  น้องเค้ารู้สึกกดดันที่จะต้องทำตามที่สอนให้ได้  อยู่ดีๆก็มีอาการเกร็ง  นั่งย่อขาลงทำมือคุ้ดคู้ปิดหน้า  หายใจถี่ๆ  ตอนแรกก็นึกว่าน้องเค้าคงร้องไห้เสียใจที่ทำไม่ได้  เรียกหลายครั้งก็ไม่ตอบ   พอดูใกล้ๆถึงรู้ว่ามีอาการเกร็งมากและหายใจถี่ๆ
.
พาไปโรงพยาบาลแล้วหมอบอกว่าเดี๋ยวก็หายเอง   ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ไม่หาย   หมอก็เอาถุงพลาสติกมาครอบปิดจมูกไว้  เพื่อลดการหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกายมากเกินไป  และเพื่อเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์    ซักพักน้องเค้าก็หาย   .....ฟังดูแล้วก็แปลกดี  มีอาการโรคอย่างนี้ด้วย


--
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
Changggg@เสาร์รัญจวน
ข้อมูลส่วนตัว
 
T h € ~ T A Ö

ขาโจ๋ประจำเวบ
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 13:36:50
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 3686
เลขที่สมาชิก: 12852
สมัครเมื่อ: 5/12/2007

ขอให้น้องเค้าหายเร็วๆ ด้วยครับ
อ่านแล้วตกใจจริง ๆ ครับ เห็นภาพเลยอ่ะ

--
« I will be back. »
ข้อมูลส่วนตัว
 
kaibig

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 15:20:36
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 845
เลขที่สมาชิก: 5097
สมัครเมื่อ: 25/9/2006

ขอให้หายไวๆ ทุกคนเอาใจช่วยกันอยู่น่ะครับ
ข้อมูลส่วนตัว
 
권유리

แฟนพันธ์แท้
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 15:28:25
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 9169
เลขที่สมาชิก: 14968
สมัครเมื่อ: 7/4/2008

หายไวๆนะคับ

--
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

@ @ @ ( YoneX OnlY ) @ @ @

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ข้อมูลส่วนตัว
 
<<Good Man>>

ขาโจ๋ประจำเวบ
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 16:27:41
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 2059
เลขที่สมาชิก: 7007
สมัครเมื่อ: 23/2/2007

หายเร็วๆ นะครับ

--
"แค่ออกกำลัง อย่าเครียด"
ข้อมูลส่วนตัว
 
Blind intellect

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 18:15:05
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 1020
เลขที่สมาชิก: 37901
สมัครเมื่อ: 15/1/2010

ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง
ข้อมูลส่วนตัว
 
WhiteTigger

แฟนพันธ์แท้
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 18:50:16
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 6817
เลขที่สมาชิก: 7884
สมัครเมื่อ: 20/4/2007

น่ากัวนะคับ.....หายไวๆๆนะ....
ข้อมูลส่วนตัว
 
3un

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 21:29:54
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 530
เลขที่สมาชิก: 39890
สมัครเมื่อ: 6/5/2010


ยกคำพูด:
เขียนโดย Changggg:

บางทีอาจเป็นอาการที่เรียกว่า  "หายใจเร็วผิดปกติ"
.
มีพี่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า.....ขณะกำลังสอนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่  น้องเค้ารู้สึกกดดันที่จะต้องทำตามที่สอนให้ได้  อยู่ดีๆก็มีอาการเกร็ง  นั่งย่อขาลงทำมือคุ้ดคู้ปิดหน้า  หายใจถี่ๆ  ตอนแรกก็นึกว่าน้องเค้าคงร้องไห้เสียใจที่ทำไม่ได้  เรียกหลายครั้งก็ไม่ตอบ   พอดูใกล้ๆถึงรู้ว่ามีอาการเกร็งมากและหายใจถี่ๆ
.
พาไปโรงพยาบาลแล้วหมอบอกว่าเดี๋ยวก็หายเอง   ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ไม่หาย   หมอก็เอาถุงพลาสติกมาครอบปิดจมูกไว้  เพื่อลดการหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกายมากเกินไป  และเพื่อเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์    ซักพักน้องเค้าก็หาย   .....ฟังดูแล้วก็แปลกดี  มีอาการโรคอย่างนี้ด้วย

ชื่อโรค Hyperventilation syndrom

เป็นจากความเครึยดจึงหายใจเร็ว มักพบในผู้หญิงทำให้มีการเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(เป็นกรด)ออกมากเกินไปทำให้เลือดเป็นด่างจึงส่งผมให้ calciumในเลือด ลดลง จึงมีอาการมือจีบเท้าจีบ

ส่วนของน้องเขาเป็นได้หลายอย่างแต่น่าจะเป็นจาก หัวใจมากกว่า อาจเป็นจาก

1.Hypertrophic cardiomyopathy (HCM) :while usually not fatal in most people, is the most common cause of heart-related sudden death in people under 30 years old มักเป็นอันนี้ เป็นที่กล้ามเนื้อหัวใจเองมีการโตผิดปกติทำให้การสูบฉีดเลือดล้มเหลว

2.หัวใจเต้นผิดจังหวะ Long QT syndrome (LQTS).

3.Coronary artery abnormalities เป็นที่หลอดเลือดหัวใจ

เป็นกำลังใจให้น้องเขาหายเร็วๆนะครับ

 

ข้อมูลส่วนตัว
 
3un

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 21:42:48
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 530
เลขที่สมาชิก: 39890
สมัครเมื่อ: 6/5/2010

ขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)

๑. การช่วยจัดทางเดินทางหายใจให้โล่ง และอยู่ในท่าที่จะให้การช่วยเหลือ ซึ่งทำได้โดย

 ๑.๑ วางฝ่ามือบนหน้าผากผู้ป่วยและกดลง นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือพร้อมที่จะเอื้อมมาอุดจมูกเมื่อจะผายปอด มือล่างใช้นิ้วกลางและนั้วชี้เชยคางขึ้น ดังภาพที่ ๑ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถใช้ได้ในผู้บาดเจ็บที่มีกระดูกสันหลังส่วนคอหัก

๑.๒ ใช้มือกดหน้าผากเหมือนวิธีแรก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งช้อนใต้คอขึ้นวิธีนี้ทำได้ง่าย แต่ไม่ควรทำในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังเพราะจะเกิดอันตรายต่อไขสันหลัง

๑.๓ ใช้สันมือทั้งสองข้างวางบนหน้าผากกดลง แล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางจับกระโดงคาง (Mandible) ของผู้ป่วยขึ้นไปทางข้างหน้า ซึ่งผู้ทำ CPR นั่งคุกเข่าอยู่ทางศีรษะของผู้ป่วย ซึ่งวิธีนี้ทำได้ยาก แต่ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งดี

ถ้าการหยุดหายใจเกิดจากลิ้นตกไปอุดตันทางเดินหายใจผู้ป่วยจะหายใจได้เอง และในขั้นตอนการเปิดทางเดินหายใจนี้ควรใช้เวลา ๔ - ๑๐ วินาที

๒. การตรวจดูการหายใจ ซึ่งควรใช้เวลาเพียง ๓ - ๕ วินาที ซึ่งทำโดยคุกเข่าลงใกล้ไหล่ผู้ป่วย ผู้ให้การช่วยเหลือเอียงศีรษะดูทางปลายเท้าผู้ป่วย หูอยู่ชิดติดกับปากผู้ป่วยและฟังเสียงลมหายใจผู้ป่วย ตามองดูหน้าอกว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่หรือใช้แก้มสัมผัสลมหายใจจากผู้ป่วย

การหายใจเข้า เป็นการที่ปอดพองตัวรับอากาศภายนอกเข้าทรวงอกจากนั้นปอดจะบีบตัวเอาลมที่ใช้แล้วออกทำให้เห็นทรวงอกเคลื่อนลงเล็กน้อย ซึ่งการขยายขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ และนับการหายใจหนึ่งครั้ง ซึ่งการหายใจน้อย (ตื้น) หรือไม่หายใจ จะต้องช่วยการหายใจในทันที โดยการที่ผู้ทำ CPR สูดหายใจเข้าเต็มที่แล้วเป่าเข้าสู่ผู้ป่วยโดยวิธี


๒.๑ ปากต่อปาก ผู้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพควรนั่งข้างใดข้างหนึ่ง ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือของข้างที่กดศีรษะ บีบจมูกผู้ป่วยเพื่อไม่ให้อากาศรั่วออกขณะเป่าลมเข้าปาก มือข้างที่ยกคางประคองให้ปากเผยอเล็กน้อย ผู้ทำ CPR สูดหายใจเข้าเต็มที่ประกบปากครอบปากผู้ป่วยพร้อมเป่าลมเข้าเต็มที่ ด้วยความเร็วสม่ำเสมอประมาณ ๘๐๐ มิลลิลิตรต่อ ๑ ครั้ง เพื่อให้ปอดขยาย ขณะทำการช่วยเลหือควรสังเกตว่าทรวงอกขยายออกแสดงถึงอากาศผ่านเข้าไปได้ดีแล้วรีบถอนปาก รอให้ลมออกจากผู้ป่วย ซึ่งใช้เวลาประมาณ ๑-๑๕ วินาที แล้วเป่าซ้ำ (ภาพที่ ๒)

๒.๒ ปากต่อจมูก การเป่าลมเข้าทางจมูกเป็นวิธีที่ดี กระทำได้เช่นเดียวกับการเป่าปาก ซึ่งในกรณีที่เปิดปากไม่ได้หรือมีแผลที่ปาก ให้ใช้มือด้านที่เชยคางยกขึ้นให้ปากปิดแล้วเป่าลมเข้าทางจมูกแทนโดยต้องใช้แรงเป่ามากกว่าปากเพราะมีแรงเสียดทานสูงกว่า

๓. การตรวจชีพจรเพื่อประเมินการไหลเวียนโลหิต โดยคลำที่หลอดเลือดใหญ่ที่ตรวจง่าย คือหลอดเลือดแดงคาโรติด (อยู่ทางด้านข้างของลำคอนำเลือดไปเลี้ยงศีรษะ) โดยวางนิ้วโป้งและนิ้วกลางตรงช่องกระหว่างลูกกระเดือกหรือ Thyroid cartilage และกล้ามเนื้อคือ Sternomastoid สังเกต และนับจังหวะ

การเต้นของหลอดเลือด ถ้ามีชีพจรอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ไม่หายใจให้ช่วยเฉพาะการหายใจ ถ้าไม่มีชีพจรหรือมีแต่ช้ามาก เบามาก ให้ทำการช่วยการไหลเวียนต่อจากการช่วยหายใจทันทีโดยในการคลำชีพจรไม่ควรใช้เวลาเกินกว่า ๕ วินาที ซึ่งผู้ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพควรฝึกหัดคลำชีพจนให้ชำนาญ



ตำแหน่งการวางมือ

ผู้ให้การช่วยฟื้นคืนชีพจะต้องใช้สันมือ (Heel of Hand) ข้างหนึ่งวางบนกระดูกหน้าอกโดยให้อยู่เหนือลิ้นปี่ประมาณ ๓ เซนติเมตร หรือสองนิ้วมือซึ่งกระทำโดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวางทาบลงบนกระดูกหน้าอก ให้นิ้วกลางอยู่ชิดลิ้นปี่ แล้วใช้สันมืออีกข้างหนึ่งวางทับลงไปโดยไม่ใช้ฝ่ามือแตะหน้าอกและเมื่อวางถูกตำแหน่งแล้วไม่ควรยกขึ้นหรือเคลื่อนที่ ซึ่งพบได้บ่อยในการฝึกปฏิบัติและทำให้การทำ CPR ไม่ได้ผลดี

การนวดหัวใจ

กระทำโดยใช้แรงโน้มของลำตัวผ่านแขนที่เหยียดตรง กดหน้าอกด้วยน้ำหนักที่ทำให้หน้าอกยุบลงประมาณ ๓ - ๕ เซนติเมตร ดังภาพที่ ๓ การกดจะช่วยให้ความดับภายในทรวงอกสูงเลือดไหลผ่านไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญของร่างกายได้

ขณะนวดหัวใจ ต้องจัดจังหวะกดโดยนับหนึ่ง และสอง และสาม และสี่ จนถึงสิบห้า เมื่อครบสิบห้าครั้งแล้วผู้ทำการให้ CPR ทำการเป่าปากอีก ๒ ครั้ง นับเป็นหนึ่งรอบ ทำสลับกันไปเช่นนี้ ๔ รอบ แล้วทำการประเมินผล ถ้ามีบุคคลที่มีความรู้ CPR มาช่วย จะทำการกดหน้าอก ๕ ครั้ง ต่อการเป่าอากาศเข้าปอด ๑ ครั้ง และเมื่อต้องการเปลี่ยนหน้าที่ให้ทำการนับเพื่อเปลี่ยนดังนี้ เปลี่ยนและ, สองและ, สามและ , หน้าและ ,เป่า แล้วจึงสลับที่กัน

การส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และต้องเฝ้าประเมินสังเกตภาวะการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยตลอดเวลา ในกรณีที่ต้องทำ CPR ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรติดตามผลโดยการหยุดทำ CPR เพื่อจับชีพจรทุก ๒ - ๓ นาที และไม่ว่าโดยเหตุผลใด ๆ ไม่ควรหยุดทำ CPR เกินกว่า ๕ วินาที ยกเว้นถ้าท่านเป็นผู้ทำ CPR เพียงคนเดียวและจำเป็นต้องโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลมาช่วย

อันตรายจากการกู้ชีวิต

การวางมือไม่ถูกต้อง ทำให้กระดูกซี่โครงหรือปลายกระดูกหน้าอกหักไปทิ่มอวัยวะภายใน กระตุ้นให้เลือดออกมากจนเสียชีวิตได้
ไม่ปล่อยมือหลังจากกดหน้าอก ทำให้หัวใจขยายตัวไม่ได้ เลือดกลับสู่หัวใจได้น้อย การกดหน้าอกครั้งต่อไปจะมีเลือดออกจากหัวใจน้อยลง ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
การกดหน้าอกแรงและเร็วเกินไป อาจทำให้หัวใจซ้ำ หรือกระดูกได้
กดหน้าอกลึกเกินกว่า 3 นิ้ว อาจทำให้เกิดหัวใจช้ำได้
เป่าลมเข้าปากมากเกินไป หรือเปิดทางเดินหายใจไม่โล่ง ทำให้ลมเข้ากระเพาะอาหารแทนปอด เกิดท้องอืด เศษอาหารและน้ำล้นออก และเข้าไปในหลอดลมได้

ข้อมูลส่วนตัว
 
ปูนิ่มนิ่ม

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 23:02:22
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 593
เลขที่สมาชิก: 35176
สมัครเมื่อ: 15/9/2009

เอาใจช่วยคะ ขอให้หายไวๆ
ข้อมูลส่วนตัว
 
PiyapongDachpong

แฟนพันธ์แท้
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 23:02:49
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 8780
เลขที่สมาชิก: 17314
สมัครเมื่อ: 19/7/2008

ขอขอบคุณในน้ำใจของเพื่อนๆที่เป็นกำลังใจให้น้อง
และขณะนี้น้องพ้นขีดอันตรายแล้ว ขอบคุณหนังสือสยามกีฬา


"น้องกลอย" ปิยธิดา เขียวรอดไพร นักตบลูกขนไก่ดาวรุ่งจากเชียงใหม่ ที่วูบคาสนาม อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องลุ้นอีก 2 สัปดาห์ ว่าอาการเป็นอย่างไร หลังบินเข้ารักษาต่อในกรุงเทพฯ แพทย์ชี้สาเหตุเป็นเพราะลิ้นหัวใจรั่ว และ หัวใจโต ทำให้วูบกลางสนาม พ่อเชื่อเป็นกรรมพันธุ์ เพราะมีญาติป่วยเป็นโรคหัวใจหลายราย แม่ชี้ลูกสาวมีลางบอกเหตุ เคยดูดวงพบเคราะห์ร้ายสุดๆ ด้าน เอสซีจี ต้นสังกัดพร้อมดูแลเต็มที่ และขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ




หลังจากที่นักแบดมินตันดาวรุ่งวัย 15 ปีจาก เชียงใหม่ "น้องกลอย" ปิยธิดา เขียวรอดไพร ที่ฝึกซ้อมที่ เอสซีจี อะคาร์เดมี่ เกิดอาการช็อกคาสนาม ระหว่างแข่งขันหญิงเดี่ยว แบดมินตันอาชีพ สนามที่ 2 ที่โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันพฤหัสฯที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนในสนาม ก่อนมีการปฐมพยาบาลและนำตัวไปรักษาที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์


โดยล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันศุกร์ที่ 28 พ.ค. 53 ทางเอสซีจี ต้นสังกัดได้ติดต่อให้ทาง รพ.กรุงเทพ นำเฮลิคอปเตอร์ เดินทางมารับตัวผู้ป่วยไปทำการรักษาต่อที่กรุงเทพฯ ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ รพ.กรุงเทพ โดยมีคุณแม่กัลยา เขียวรอดไพร ที่เดินทางมาจากเชียงใหม่เฝ้าดูอาการลูกสาวอย่างใกล้ชิด


แพทย์ชี้ลิ้นหัวใจรั่ว แต่พ้นโคม่า
ด้าน นายแพทย์ รัตนพันธุ์ อินเจริญศักดิ์ อายุรแพทย์หัวใจ รพ.กรุงเทพ แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยหลังทำการรักษา น้องกลอย ว่า การตอบรับของสมองของผู้ป่วยตอนนี้ยังไม่ดี แต่อาการในตอนนี้ถือว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว


อย่างไรก็ตามแพทย์ยังต้องดูแลอย่าใกล้ชิด ระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อ ตนคิดว่ามีโอกาสสูง ที่ผู้ป่วยจะฟื้นอาจต้องรอดูอาการประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะสามารถยืนยันได้ว่า ในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยช็อกไปนั้น ส่วนของสมองขาดออกซิเจนไปนานเพียงใด และในช่วงที่ทำการปฐมพยาบาลนั้น ระยะทางระหว่างสนามแข่งขันไปถึง รพ. ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนเพียงพอหรือไม่


ตอนนี้ทางแพทย์จะทำการเอกซเรย์คลื่นสมองอย่างละเอียด เพื่อดูว่ามีสมองส่วนที่เสียหายจากการขาดออกซิเจนมากน้อยเพียงใด ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องกลอยเกิดอาการวูบเป็นเพราะมีอาการลิ้นหัวใจรั่วและหัวใจโต ซึ่งเรื่องหัวใจโตนั้นนักกีฬาที่ได้ทำการฝึกซ้อมอย่างหนักในระดับแข่งขันเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ที่มีอาการหัวใจโต


พ่อแม่ถึงช็อกไม่คิดว่าอาการหนัก
ทาง คุณพ่อไพรัชน์ และคุณแม่กัลยา เขียวรอดไพร ได้ออกเดินทางจากเชียงใหม่ทันที หลังจากได้รับข่าวร้ายของลูกสาว และได้เดินทางมาถึง รพ.นครสวรรค์ประชารักษ์ เวลาประมาณ 22.00 น. ของค่ำวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา


โดยทั้งสองเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสยามกีฬาว่า ตอนแรกที่ทีมงาน เอสซีจี ได้โทร.แจ้งข่าวนั้นตนคิดว่า น้องกลอย คงไม่เป็นอะไรมากขนาดนี้ เพราะโดยปกติจะเป็นเด็กที่แข็งแรงมาก ตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยเจ็บป่วยถึงขนาดต้องเข้า รพ. แม้แต่ครั้งเดียว แต่พอมาพบกับลูกที่นอนให้ออกซิเจนอยู่ถึงกับช็อกบอกไม่ถูกไม่คิดว่าลูกจะเป็นหนักมากถึงขนาดนี้


พ่อเผยอาจมาจากกรรมพันธุ์
ด้าน คุณพ่อไพรัชน์ เขียวรอดไพร ยังเผยว่า อาการของโรคหัวใจของน้องกลอย น่าจะมาจากกรรมพันธุ์ เพราะครอบครัวฝั่งพ่อมีคนเป็นโรคหัวใจอยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ หรือแม้แต่ในรุ่นเด็กๆ ลูกของอาของน้องกลอยเองก็มีอาการของโรคหัวใจอยู่หลายคน ตอนแรกน้องกลอย ซึ่งเป็นเด็กที่เรียนเก่งอยู่แล้ว บอกกับตนว่าอยากที่จะมุ่งเน้นไปด้านการเรียนมากกว่า


แต่ทางตนเห็นว่าฝีมือในการเล่นแบดมินตันของลูกอยู่ในระดับต้นๆ ของรุ่น จึงเสียดายและอยากที่จะให้เล่นต่อ พร้อมกันนั้นทางเอสซีจี มีโครงการที่เก็บตัวนักกีฬา และมีสถานที่เรียนควบคู่ไปพร้อมๆ กัน ตนจึงตัดสินใจให้ลูกได้ทำตามความฝันทั้งสองอย่างคือเรื่องเรียน และแบดมินตันไปพร้อมกัน


นอกจากนี้ยังมีนักแบดมินตันจากเชียงใหม่อย่าง "เจ้าเพชร" โฆษิต เพชรประดับ มาอยู่ที่นี่ด้วย ตนเห็นว่ามีเพื่อนมาอยู่ด้วย เลยให้ลูกมาฝึกซ้อม และเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมฯ พัฒนาการในกรุงเทพฯ


แม่ชี้มีลางบอกเหตุตั้งแต่ปุ้มปุ้ย
ทางคุณแม่กัลยา ได้กล่าวถึงเรื่องลางบอกเหตุว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ทางน้องกลอยได้เกิดอุบัติเหตุตกบันได ตั้งแต่การแข่งขันปุ้มปุ้ย ที่จังหวัดตรัง ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และก่อนที่จะมาแข่งขัน ที่นครสวรรค์ น้องกลอย ได้โทรศัพท์คุยกับแม่ว่า ไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องดวง และดูดวงของตนแล้วไม่ดีเลย อยากให้แม่พาไปทำบุญ เพื่อที่จะได้ปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป ซึ่งตนก็อยากจะพาไปในทันที


แต่ช่วงนี้ทางน้องกลอย มีโปรแกมแข่งขันต่อเนื่อง เดิมทีตั้งใจว่าถ้าน้องกลอยกลับไปเชียงใหม่ ก็จะพาไปทำพิธีสะเดาะห์เคราะห์ แต่ก็มาเกิดเรื่องซะก่อน นอกจากนี้ทางคุณแม่กัลยา ยังหวังว่า ลูกสาวที่เป็นเด็กเรียบร้อย นิสัยดี และเป็นนักสู้มีความอดทน จะช่วยให้น้องกลอย ฝ่าฟันกับอาการเจ็บป่วยครั้งนี้ไปได้


เอสซีจี พร้อมดูแลเต็มที่
ด้าน เอสซีจี ต้นสังกัดของน้องกลอย โดยทาง "โค้ชโอม" เทศนา พันธ์วิศวาศ กล่าวว่า ทาง เอสซีจี จะดูแลนักกีฬาอย่างดีที่สุด ในตอนนี้ได้ประสานให้นำตัวไปรักษาต่อที่ รพ.กรุงเทพ ซึ่งตน และนักกีฬาทุกคน รวมถึงทีมงานต่างหวังว่า น้องกลอย จะหายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม


นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็น เอสซีจี, เจ้าหน้าที่แพทย์สนามที่เป็นผู้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น, ฝ่ายจัดการแข่งขัน, เจ้าหน้าที่ของทาง จ.นครสวรรค์, คุณ จิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ ประธานจัดแข่งขัน, รพ.สวรรค์ประชารักษ์, กรรมการ, โค้ชจากทุกๆ สโมสร รวมทั้งนักกีฬาทุกๆ คนจากทุกสังกัด ที่ได้คอยช่วยเหลือ และเป็นห่วงในอาการของน้องกลอย

--
"บุคคลที่ไม่รู้ และไม่รู้ว่าตนไม่รู้ เขาผู้นั้นเป็นคนโง่ จงหลีกเขาไปให้พ้น
บุคคลที่ไม่รู้ และรู้ว่าตนเองไม่รู้ เขาผู้นั้นเป็นเด็ก จงใส่ใจในตัวเขา
บุคคลที่รู้ และไม่รู้ว่าตนรู้ เขาผู้นั้นยังหลับอยู่ จงปลุกเขา
บุคคลที่รู้ และรู้ว่าตนรู้ เขาผู้นั้นเป็นคนฉลาด จงตามเขาไปเถิด"
"ศรีบูรพา"
ข้อมูลส่วนตัว
 
Bad vader

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  28/5/2010 23:54:29
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 1631
เลขที่สมาชิก: 11324
สมัครเมื่อ: 16/9/2007

ขอบคุณทุกคนที่สนใจติดตามข่าวนะครับ ผมเป็นคนไปทำข่าวเอง อยู่ในสนามยังตกใจเลยครับ อยู่ดี ๆ น้องก็หงายหลังลงไปเลย เสียงดังสนั่น ทั้ง ๆ ที่เป็นพื้นยาง ถ้าใครเห็นตอนนั้นคงนึกว่าไม่รอดแล้วครับ ตาค้างแล้ว ชีพจรไม่เต้น ดีว่ามีหมอเข้ามาดูแบดฯอยู่ในสนามพอดีเลยลงมาช่วยปั๊มหัวใจ ไม่งั้นนน้องปิยธิดาไปแน่ ๆ ครับ
ขอบอกเพิ่มเติมนิดนึงครับ ที่โรงยิมนี่ไม่ร้อนนะครับ ้เพราะติดแอร์อย่างดี เย็นจนหนาวเลยครับ
ขอบคุณชาวTBW ที่เป็นห่วงน้องนะครับ ตอนนี้รักษาตัวอยู๋ในกรุงเทพฯ แล้วครับ
ปุ๊/ไอแบด

--
***May the force be with you***
*** ไม้หลัก ปักขี้เลน
ไม้รอง เค้ามูลคดี
รองเท้า กูคงใส่รองเท้าทหารไปตีแบดมั้ง
ถุงเท้า เก่าและขาด
มึงจะเขึยนกันไปทำไม ใครเขาถามวะ********
ข้อมูลส่วนตัว
 
XO..XO.. Natty kaa...

พี่รอง
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 0:10:51
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 395
เลขที่สมาชิก: 5721
สมัครเมื่อ: 18/11/2006

เอาใจช่วยให้หายวันหายคืนนะค่ะ

--
You know you love me

XO...XO... !!!
ข้อมูลส่วนตัว
 
( ( ( ( A ) ) ) )

สุดยอดแฟนพันธ์แท้
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 0:32:22
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 26275
เลขที่สมาชิก: 1841
สมัครเมื่อ: 2/4/2005

ขอให้น้องหายโดยไวนะครับ
พระคุ้มครองครับ

* ขอขอบคุณภาพจากเว็บ siamsport.co.th ครับ

--
SATURN สะเทิ้นทีม
ข้อมูลส่วนตัว
 
weezer

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 2:01:28
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 628
เลขที่สมาชิก: 34056
สมัครเมื่อ: 10/8/2009

เป็นเคสที่น่าสนใจครับ การแข่งกีฬาใหญ่ๆแบบนี้ นอกจากต้องมีแพทย์ประจำสนามแล้ว อุปกรณ์เครื่องมือการปฐมพยาบาลก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ไม่ใช่แค่ยาดม ยาแดง ผ้าพันแผล ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตที่จำเป็นไว้ด้วย ที่สำคัญต้องมีรถพยาบาลเตรียมไว้ในสถานที่ตลอดที่มีการแข่งขัน สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเพื่อที่จะได้นำส่งโรงพยาบาลได้ทันที ไม่ต้องรอเรียกภายหลัง จะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น เพิ่มโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น นอกจากรถพยาบาลแล้วอาจต้องมีรถดับเพลิงเตรียมไว้ เผื่อกรณีไฟไหม้ด้วย.......ขอให้น้องหายไวๆครับ
ข้อมูลส่วนตัว
 
O_+ !!

ขาโจ๋ประจำเวบ
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 3:56:23
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 3695
เลขที่สมาชิก: 17909
สมัครเมื่อ: 25/7/2008

เคยตัดสินน้องกลอย เวลาตีดูแข็งแรงมากเรย แต่ก้อเหนื่อย น่าซีต น้องกลอยตีดีมาก ตีครอสสวย

ยังงัยก้อขอให้ เปงปกติไวไว กลับมาซ้อมได้เหมือนเดิมจ้า

--
ข้อมูลส่วนตัว
 
Bellezuza

น้องเล็ก
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 10:06:26
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 41
เลขที่สมาชิก: 40249
สมัครเมื่อ: 28/5/2010

น่ากัวอะ
ข้อมูลส่วนตัว
 
lisa

น้องเล็ก
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 21:33:54
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 29
เลขที่สมาชิก: 36662
สมัครเมื่อ: 8/11/2009

หายไวไวนะ พระคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนตัว
 
PiyapongDachpong

แฟนพันธ์แท้
เขียนเมื่อ:  29/5/2010 23:41:27
  Re: ข่าวนักแบดเชียงใหม่...ช็อกกลางสนามแข่งขัน



ข้อความ: 8780
เลขที่สมาชิก: 17314
สมัครเมื่อ: 19/7/2008

ร่วมกันตั้งอธิษฐานจิตเป็นกำลังใจ ขอให้น้องหายเร็ววันกันนะครับ
ขอขอบคุณสยามกีฬารายวัน
"น้องกลอย" ปิยธิดา เขียดรอดไพร ขนไก่สาวเคราะห์ร้ายอาการน่าเป็นห่วงอีกครั้ง หลังติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ แถมสมองบวมมากขึ้น แพทย์สั่งงดเยี่ยมแล้ว อย่างไรก็ตามยังมีข่าวดี เมื่ออาการตอบสนองดีขึ้น แพทย์ยันจะรักษา น้องกลอย สุดความสามารถ


ความคืบหน้าของอาการ "น้องกลอย" ปิยธิดา เขียวรอดไพร นักแบดมินตันดาวรุ่งวัย 15 ปีจากเชียงใหม่ ที่ช็อกหมดสติคาสนาม ขณะแข่งขันแบดมินตันอาชีพ สนามที่ 2 ที่โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อบ่ายวันพฤหัสฯ ที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังเข้ารักษาตัวต่อในกรุงเทพฯ ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ รพ.กรุงเทพ โดยมี นายแพทย์ รัตนพันธุ์ อินเจริญศักดิ์ อายุรแพทย์หัวใจ รพ.กรุงเทพ ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา แพทย์แจ้งว่าอาการของ น้องกลอย พ้นขีดอันตรายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา อาการของ "น้องกลอย" กลับมาอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงอีกครั้งหลังจากที่ นายแพทย์ รัตนพันธุ์ อินเจริญศักดิ์ ได้เผยถึงอาการว่าไม่ดีขึ้นจากเมื่อวาน และดูจะทรุดลงอีกด้วย เพราะ สิ่งที่คุณหมอไม่อยากให้เกิดมากที่สุดก็คืออาการติดเชื้อ แต่อาการวันนี้ทางน้องกลอยมีอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ มีอาการไข้ และที่สำคัญก็คือมีอาการสมองบวมมากกว่าเดิม ต้องถือว่าอาการกลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง แต่ก็มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นมาก็คือการตอบสนองของผู้ป่วยดีกว่าเมื่อวานนี้ จากนี้ไปทางแพทย์จะทำการสแกนสมองอย่าละเอียดดูอีกครั้ง และจะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองมาช่วยในการรักษาอีกด้วย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยต้องระมัดระวังให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยได้รับเชื้อเข้าไปอีกก็เป็นได้ ทางแพทย์จะพยายามรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถ

ทางด้าน ณปภัช ประไพตระกูล ผจก.โครงการ เอสซีจี อะคาเดมี่ เปิดเผยหลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ว่า ทางเอสซีจี และผู้ปกครองของน้องกลอยรู้สึกขอบคุณทุกๆ คนที่เป้นห่วงน้องกลอยและอยากทราบถึงอาการป่วยว่าดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งอาการตอนนี้ต้องถือว่ายังน่าเป็นห่วงในเรื่องการติดเชื้อซึ่งทางตนและคุณหมอได้ปรึกษากันอย่างดีอยากให้งดเยี่ยมคนป่วยสักระยะหนึ่งก่อน และก็ต้องขอให้ทุกๆ กำลังใจที่อยากมาเยี่ยมน้องกลอยที่ รพ.กรุงเทพ ให้ติดต่อมาทางผม (ณปภัช) ทางโทรศัพท์แทน เพราะต้องการที่ให้นักกีฬาและผู้ปกครองได้พักผ่อนอีกทั้งจะเป็นการป้องกันการติดเชื้อของคนไข้ได้อีกด้วย ทางเอสซีจี จะดูแลน้องกลอยรวมทั้งผู้ปกครองอย่างเต็มที่ขอให้ทุกคนส่งกำลังใจมาให้น้องกลอยมากๆ

--
"บุคคลที่ไม่รู้ และไม่รู้ว่าตนไม่รู้ เขาผู้นั้นเป็นคนโง่ จงหลีกเขาไปให้พ้น
บุคคลที่ไม่รู้ และรู้ว่าตนเองไม่รู้ เขาผู้นั้นเป็นเด็ก จงใส่ใจในตัวเขา
บุคคลที่รู้ และไม่รู้ว่าตนรู้ เขาผู้นั้นยังหลับอยู่ จงปลุกเขา
บุคคลที่รู้ และรู้ว่าตนรู้ เขาผู้นั้นเป็นคนฉลาด จงตามเขาไปเถิด"
"ศรีบูรพา"
ข้อมูลส่วนตัว
Page 2 of 3«1[2]3»




ผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งาน: 13 คนกำลังอ่านกระดานนี้
ขณะนี้มีสมาชิกออนไลน์ 13 คน [ แอดมิน ] [ ผู้ดูแล ]
13 ผู้มาเยือน
0 สมาชิก:

ค้นหา

กำหนดสิทธิ

คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความ
คุณ ไม่สามารถ เพิ่มแบบสอบถาม
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้
คุณ ไม่สามารถ ลบข้อความ
คุณ ไม่สามารถ โหวต