สำหรับบทความนี้ผมจะขอแนะนำถึงวิธีเลือกซื้อไม้แบดกันครับว่ามีวิธีเลือกซื้ออย่างไร...ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าคงจะไม่สามารถแนะนำได้ลึกซึ้งนะครับ :lost:เวลาจะซื้อไม้แบดนั้นหลายคนมักถามว่ารุ่นใหนดีที่สุด ขอบอกว่าแต่ละรุ่นก็มีข้อดีข้อเสียของรุ่นนั้นๆ รุ่นหนึ่งอาจจะดีในเรื่องหนึ่งแต่ก็จะมีข้อเสียอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นจึงควรถามว่ารุ่นใหนเหมาะกับเรามากที่สุดสำหรับไม้แบดก็จะมีคุณสมบัติด้านต่างๆดังนี้
1.น้ำหนัก 2u 3u 4u โดยเลขยึ่งมากยึ่งเบา (น้ำหนักรวมของไม้)แต่ไม้ที่น้ำหนักรวมเบากว่าก็อาจจะรู้สึกว่าหัวไม้หนักกว่าได้ เนื่องจากการถ่วงน้ำหนักของไม้ว่าถ่วงไปด้านใด บางรุ่นก็ถ่วงหัว บางรุ่นก็ถ่วงด้าม บางรุ่นก็เฉลี่ยเท่าๆกันทั้งไม้ ดังนั้นนอกจากจะดูน้ำหนักรวมแล้วยังต้องดูการถ่วงน้ำหนักด้วย ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือลองเหวี่ยงตีดูสำหรับคนชอบเล่นหน้า, เล่นทาง, และเน้นรับ ก็ควรที่จะเลือกไม้เบา เพื่อความรวดเร็วในการพลิกเปลี่ยนหน้าไม้ส่วนคนชอบตบ ก็ต้องใช้ไม้ที่หัวหนักหน่อย ถึงจะตบได้มันส์และมีน้ำหนัก
2.ขนาดด้าม g2 g3 g4 g5 ซึ่งมาตรฐานอาจจะต่างกัน บางยี่ห้อเลขมากด้ามเล็ก บางยี่ห้อเลขมากด้ามใหญ่ วิธีที่ดีที่สุดก็คือลองจับดู (อีกแล้ว ) อีกอย่างที่ต้องพิจารณาก็คืออย่าลืมเผื่อขนาดที่จะใหญ่ขึ้นเมื่อพันด้ามด้วยผ้าหรือยางกันลื่นนั่นเอง สำหรับผมแนะนำว่าเลือกด้ามเล็กไว้ก่อน เพราะสามารถเลือกที่พันด้าม(over grip)มาพันให้หนาขึ้นได้ ซึ่งที่พันด้ามก็จะมีหลายความหนาให้เลือกซื้ออยู่แล้ว ซึ่งการพันด้ามนั้นจะช่วยกันลื่นเวลาเหงื่อออก อีกวิธีก็คือการซื้อ replacement grip มาพันแทน grip ของเดิมที่มากับไม้เลย แต่วิธีนี้ผมไม่แนะนำครับ ปล่อยของเดิมไว้อย่างนั้นแล้วพันทับดีกว่า
3.ความตึงเอ็นสูงสุดที่ไม้รับได้ โดยจะแบ่งเป็นแนวตั้ง(main) กับแนวนอน(cross) ซึ่งจะไม่เท่ากัน แนวตั้งจะรับได้น้อยกว่าแนวนอนไม้ที่เบากว่ามักจะรับความตึงได้น้อยกว่าเนื่องจากความบอบบางของเฟรมนั่นเอง สำหรับผู้เล่นทั่วไปนั้นก็จะขึ้นเอ็นกันที่ 16-18 ปอนด์ ไม้ที่รับได้ 20 ปอนด์ก็เพียงพอ แต่ผู้เล่นที่ฝีมือดีหน่อยก็มักจะชอบเอ็นตึงๆ ขึ้นกัน 18-20 ปอนด์ บางคนขึ้นถึง 24 ปอนด์เลยก็มีอันนี้ก็ต้องดูจาก spec ที่เขียนไว้ที่โคนไม้ จะบอกไว้ทั้ง 2 แนวสำหรับเอ็นที่มากับไม้นั้นขอบอกว่าหย่อนมาก สำหรับผู้เล่นระดับเริ่มต้นก็พอตีไปก่อนได้ แต่อย่าหวังว่ามันจะขาดแล้วค่อยเปลี่ยนนะครับ มันไม่ขาดง่ายๆหรอก (แหมก็ทั้งเหนียวทั้งหย่อน) สำหรับผู้ที่คิดจะตีจริงจังหรือตีให้เก่ง ควรขึ้นเอ็นใหม่ (แนะนำ bg66 18 ปอนด์) หรือรุ่นหรือความตึงตามที่คุณคิดว่าเหมาะ (โปรดติดตามบทความเรื่องวิธีการเลือกเอ็น)
4.คุณสมบัติทางกายภาพจะแบ่งเป็น4.1 คุณสมบัติใหม่ๆทางเทคโนโลยี (อันนี้มีผลน้อยมากเมื่อเทียบกับข้อ 1 และ 2) อย่าเลือกไม้เพราะมีเทคโนโลยีดีกว่า แต่ให้เลือกไม้ที่เหมาะกับเรามากกว่า ส่วนถ้ารุ่นที่เหมาะนั้นมีเทคโนโลยีใหม่ๆด้วยก็ดีไป ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องไปกังวลกับมันมากครับเทคโนโลยีที่เห็นๆกัน(อ้างอิงของ yonex)ก็จะมี ultimum ti, titanium mesh (ti mesh), muscle power (MP), armotec ดูรายละเอียดที่เวบ Yonex จะดีกว่า
4.2 รูปร่างเฟรมหัวไม้และความยาวก้าน ไม้รุ่นใหม่ๆมักจะยาวกว่ารุ่นเก่าเล็กน้อยประมาณ 1 ซม. อันนี้ก็ไม่ค่อยมีผลเหมือนกัน หากจับถนัดน้ำหนักเหมาะมือแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้องไปกังวล
สำหรับการซื้อไม้นั้นก็คงต้องพิจารณาประกอบถึงผู้ใช้เป็นสำคัญ ว่าซื้อมาเพื่อเล่นระดับใหน ไม้ระดับราคา 400 บ.ขึ้นไปถือว่าใช้ได้แล้วครับ ทีนี้เราก็มาดูว่าตัวเราจะเล่นระดับใหน ก็เลือกราคาให้เหมาะกับระดับที่เราจะเล่น ส่วนรุ่นใหนราคาเท่าไหร่นั้นลองถามดูที่เวบบอร์ดครับ (ดูบทความ ไม้แบด/ลูกแบด ราคาห้าง:ราคาร้านข้างสนามศุภ ประกอบ)
อืมม...ความรู้นี้หาได้ยาก....ตอ้งขอขอบคุณมากน่ะคับ....จะได้ซื้อสักที
ใช่ๆสำหรับคนมือใหม่ครับ
ดึงขึ้นมาให้อ่านกันคับ...เรื่องมีสาระมีที่นี่คับ
แล้ววิธีการดูวัน เดือน ปีที่ผลิตของไม้Yonex ละครับดูอย่างไรวานผู้รู้เฉลยด้วยครับ
ขอบคุณมาก ๆ ที่ช่วยดึงเรื่องมีสาระมาให้อ่าน
เพราะบางครั้งไม่รู้จะถามใครเหมือนกัน