ThaiBadminton
หน้าแรก สนามแบด เวบบอร์ด รีวิวไม้แบด รวมลิงก์ ช่วยเหลือ ติดต่อ เข้าระบบ สมัครสมาชิก

โปรดอ่าน
การปิดกระทู้
กฎการใช้ ลายเซ็นต์ ในเว็บ
กฎการใช้งานเว็บบอร์ด กรุณาอ่านให้เข้าใจก่อนโพสต์




/  หน้าแรกเวบบอร์ด
   /  คุยกันฉันเพื่อน
/  From my mailbox (END)
Page 1 of 6[1]234...6»
From my mailbox (END)                 


 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 9:21:48
  From my mailbox (END)



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003




ทุกๆ วันจะมีเพื่อนๆ ส่งเมลล์มาหาผมเป็นประจำเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ต่างๆ เศร้าบ้าง ตลกบ้าง รูปภาพบ้าง วีดีโอบ้าง เลยอยากจะเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันน่ะครับ ด้วยเหตุนี้ผมจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ บางเรื่องอาจจะอ่านกันแล้วก็อย่าว่ากันนะครับ


คิม




[ แก้ไขโดย ราเมนหมูทอด เมื่อ 14/11/2003 10:05 ]

--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 9:27:37
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

ประเดิมเรื่องแรกครับ ด้วยเรื่องน่ารักๆ เศร้าๆ ซึ้งๆ ครับ คิดว่าหลายคนคงเคยอ่านแล้วล่ะ


แมลงปอ

มีเมืองเล็ก ๆ ที่สวยและสงบสุขเมืองหนึ่ง มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมาก ทุกวันพวกเขาจะพากันไปดูชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาด และไปส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชายหาดตอนโพล้เพล้ ทุกคนที่เคยพวกเขาพบเจอจะมองด้วยสายตาอิจฉาในความรักของคนคู่นี้เสมอ. แต่แล้ววันหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น หญิงสาวผู้โชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอนอนเงียบ ๆ อยู่บนเตียงของโรงพยาบาล วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า เธอก็ยังคงไม่ฟื้นคืนมา ตอนกลางวัน ชายหนุ่มจะมาเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียงร้องเรียกคนรักของเขาเสมอ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ตอบสนองใด ๆ เลย ตกกลางคืน ชายหนุ่มจะไปสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์นอกเมือง เขาร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง ไม่มีจะไหลออกมาอีกแล้ว

ผ่านไป 1 เดือน หญิงสาวยังคงหลับใหลไม่ฟื้นเหมือนเดิม ส่วนชายหนุ่มก็ดูจะซูบเซียวขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังคงสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอไม่หยุด แต่แล้ววันหนึ่ง พระผู้เจ้าก็เกิดเห็นใจในรักของชายหนุ่มและตกลงที่จะประทานพรให้แก่เขา

พระผู้เป็นเจ้าได้ถามชายหนุ่มว่า "เจ้ายอมที่จะแลกพรนี้ด้วยชีวิตของเจ้าไหม"
ชายหนุ่มตอบโดย[ไม่]ลังเลว่า " ผมยอมครับ"
พระผู้เป็นเจ้าพูดว่า "งั้นดี, ฉันจะให้คนรักของเจ้าฟื้นขึ้นมา แต่เจ้าต้องแลกกับการกลายเป็นแมลงปอเป็นเวลา 3 ปี เจ้าจะตกลงยอมไหม" ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น แต่ก็ยังคงยืนยันคำตอบเดิม "ผมยอมครับ"

ฟ้าสางแล้ว ชายหนุ่มได้กลายเป็นแมลงปอสวยงามตัวหนึ่ง เขาบอกลาพระผู้เป็นเจ้าแล้วรีบบินกลับไปที่โรงพยาบาล หญิงสาวฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ มีนายแพทย์หนุ่มยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ คุยเรื่องอะไรกันสักอย่างหนึ่ง แต่ช่างเสียดายที่เขาไม่สามารถที่จะได้ยิน. หลายวันผ่านไป หญิงสาวแข็งแรงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่เธอดูไม่มีความสุขเลย เธอออกตะเวณหาข่าวคราวของชายหนุ่ม แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าชายหนุ่มหายไปอยู่ที่ไหน หญิงสาวยังไม่ละความพยายามที่จะตามหาชายคนรักของเธอ ชายหนุ่มซึ่งอยู่ในร่างของเจ้าแมลงปอ ได้แต่บินวนเวียนอยู่รอบตัวหญิงสาวไม่ห่าง ทว่าเขาไม่สามารถที่ส่งเสียง ไม่สามารถโอบกอดเธอ เขาทำได้แค่เพียงเฝ้ามองดูหญิงสาวไม่ให้คาดสายตาเท่านั้น ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดใบไม้ปลิวร่วงหล่นจากต้นไม้ใหญ่ เจ้าแมลงปอจำต้องจากที่นี่ไปแล้ว นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้บินมาเกาะที่บ่าของหญิงสาว เขาอยากใช้ปีกของเขาลูบใบหน้าของหญิงสาว อยากใช้ปากเล็ก ๆ จูบที่หน้าผาก แต่อย่างไรก็ดีร่างเล็กบอบบางในคราบของแมลงปอก็ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวได้

แค่พริบตา ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือน เจ้าแมลงปอรีบบินกลับมาหาคนรักของเขา เพื่อจะพบว่าร่างอันคุ้นตานั้นบัดนี้ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับชายรูปร่างสันทัดคนหนึ่ง ภาพ ๆ นั้นทำให้เจ้าแมลงปอเกือบจะบินตกลงมาจากอากาศเลยทีเดียว ชาวบ้านต่างกล่าวขานถึงเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ได้พบกับแพทย์หนุ่มที่น่ารัก และ ใจดี คนนั้น และยังกล่าวถึงความรักของคนทั้งคู่ที่เหมือนถูกกำหนดมาอย่างไรอย่างนั้น แน่นอนพวกเขายังคงพูดถึงหญิงสาวที่สดใสร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก เจ้าแมลงปอรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก หลังจากนั้นไม่กี่วัน แมลงปอเห็นแพทย์หนุ่มผู้นั้นพาคนรักของตนไปชายทะเลเพื่อดูพระอาทิยต์ขึ้น พลบค่ำก็อยู่ที่ชายหาดเพื่อดูพระอาทิตย์ตก แต่สำหรับเขาแล้ว นอกจากบินมาเกาะที่บ่าของหญิงสาวแล้ว เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย หน้าร้อนของปีนี้ช่างยาวนานนัก เจ้าแมลงปอบินต่ำลง ๆ ทุกวันด้วยความรู้สีกที่เจ็บปวด เขาไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพอที่จะบินเข้าใกล้ หญิงอันเป็นที่รัก ท่าทางการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมของคนทั้งคู่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งคู่ ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งนัก ย่างเข้าฤดูร้อนของปีที่ 3 เจ้าแมลงปอไม่ค่อยไปเฝ้าดูคนรักของเขาแล้ว บ่าของเธอบัดนี้ถูกโอบกอดด้วยมือของแพทย์หนุ่ม ใบหน้าถูกประทับจูบอย่างเบา ๆ จากเขาผู้นั้น ดูท่าทางแล้วไม่มีทางเลยที่หญิงสาวจะมีเวลาที่จะไปคิดถึงแมลงปอที่เจ็บปวดตัวหนึ่ง ยิ่งไม่มีทางที่จะไปคิดถึงอดีตสิ่งที่ผ่านไป

วันครบรอบปีที่ 3 ที่พระผู้เป็นกำหนดไว้ใกล้มาถึงแล้ว คนรักของเจ้าแมลงปอกับนายแพทย์หนุ่มได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นในวันสุดท้ายนั้นเอง เจ้าแมลงปอค่อย ๆ บินเข้าไปในโบสถ์ และไปเกาะที่บ่าของพระผู้เป็นเจ้า เขาได้ยินเสียงของคนรักที่ดังมาจากข้างล่างตอบรับคำสาบานของพระผู้เป็นเจ้าว่า "ฉันยอมรับ" เขาเห็นแพทย์หนุ่มคนนั้นสวมแหวนให้คนรักของเขา ตามด้วยจุมพิตที่แสนหวานของคนทั้งคู่.
เจ้าแมลงปอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมา

พระผู้เป็นเจ้าถามแมลงปอว่า "เจ้ารู้สึกเสียใจไหม"
เจ้าแมลงปอเช็ดน้ำตาแล้วตอบว่า "เปล่า"
พระผู้เป็นเจ้าถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า "งั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ได้กลับเป็นเจ้าคนเดิมแล้ว"
เจ้าแมลงปอส่ายหน้าอย่างช้า ๆ ก่อนตอบว่า " ขอผมเป็นแมลงปออย่างนี้ไปตลอดชีวิตเถอะครับ"

บางบุพเพ ชะตาถูกกำหนดมาเพื่อที่ต้องสูญเสียไป บางบุพเพตอนจบไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด รักคน ๆ หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องได้รับรักตอบ แต่ เมื่อได้รับรักจากใครคนหนึ่ง เราต้องดูแลรักษามันไว้อย่างดี

บนบ่าของคุณมีแมลงปอไหม ถ้าคุณไได้รับจดหมายฉบับนี้ เป็นเพราะว่ามีคนแอบอวยพรให้ และเขาก็ยังคงอยู่รอบๆ ตัวคุณเสมอไป



คิม

--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 9:46:34
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003


ฟอไฟฟุดฟิด - เส้น


คุณศุนิสาอีเมลมาถามว่า “ดิฉันอยากทราบว่าคำว่า “เด็กเส้น” ในภาษาอังกฤษเขาจะพูดว่าอย่างไรคะ”

เราอาจมองว่าประเทศฝรั่งที่มีประชาธิปไตยมีความโปร่งใสไม่น่าจะมีเรื่องเส้นสาย แต่ความจริงแล้วมนุษย์ก็คือมนุษย์วันยังค่ำแหละครับ ถ้ามีทางลัดโดยไม่ต้องออกแรงไม่ต้องใช้ความสามารถเขาก็จะใช้ทางลัดนั้น

โดยทั่วไปในอเมริกาการใช้เส้นสายในการเข้าทำงานถือว่าเป็นสิ่งที่น่าละอายใจ เพราะแสดงว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นนิจสิน ถ้าพ่อแม่คุณมีสถานะสูงส่งมีเงินที่จะบริจาคให้มหาวิทยาลัยได้ ถึงแม้ลูกจะไม่เอาถ่าน ชอบแต่ปาร์ตี้หัวราน้ำ แต่ก็ยังเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ อย่าง Yale ได้

“เส้น” ในภาษาอังกฤษเรียกว่า connections ครับ แปลตรงตัวก็คือ สายต่อเชื่อมโยง คำเดียวกันกับในประโยคที่คุณอาจใช้เกี่ยวกับการต่อโทรศัพท์เช่น I can’t hear you. I must have a bad connection. = ฉันไม่ได้ยินคุณ ฉันคงมีสายที่ต่อไม่ดีแน่เลย

คำเดียวกันนี้แปลว่า “เส้น” ในประโยค เช่น He’s never going to get fired. He’s got connec- tions. = เขาไม่มีวันที่จะถูกไล่ออกหรอก เขามีเส้น

นอกจาก to have connections ก็ยังใช้ to be connected ได้ด้วย เช่น Wonder how he landed this plum job? He’s connected. = สงสัยใช่ไหมว่าเขาได้งานแจ๋วแหววนี้มาได้ยังไง ก็เขามีเส้นไง

อีกสำนวนคือ to have friends in high places = การมีเพื่อนในตำแหน่งสูง ๆ เช่น Although the defendant has friends in high places, his friends may decide to leave him high and dry. = แม้ว่าจำเลยจะมีเส้นสายระดับสูง แต่เพื่อนของเขาก็อาจจะตัดสินใจที่ปล่อยให้เขาไม่มีใครช่วย.



--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 10:06:57
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003


The newest island of Thailand

Name: Koh LaoLeang
Province: Trang















--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 10:29:42
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

สวยอ่ะ! เสียดายจังเลย อยากไปถ่ายเองบ้างจัง


รวมภาพแห่เรือ APEC 2003


































[ แก้ไขโดย nopadh เมื่อ 30/10/2003 10:37 ]

--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
こなん

พี่รอง
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 10:42:35
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 351
เลขที่สมาชิก: 6
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

อยู่เพื่ออะไร


หลายคนเคยที่จะถามตัวเองบ้างไหม
ว่าที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ อยู่ไปเพื่ออะไร เพื่อใคร
ซึ่งคิดว่าหลายคนอาจหาคำตอบได้
แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนที่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
หากเพียงแต่ว่าอยู่ไปเพื่อวันพรุ่งนี้เท่านั้นเอง
หากคำตอบของคุณเป็นอย่างนี้แล้วนั้น
การมีชีวิตอยู่ของคุณจะมีค่าอะไรล่ะ
ชีวิตไม่มีแก่นสาร ไม่มีเนื้อหาสาระ เหมือนกับมีชีวิตแต่ไร้ประโยชน์
แต่มันก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคน
ซึ่งบางครั้งไม่สามารถรับรู้ถึงก้นบึ้งของความรู้สึกของเขาก็เป็นได้
แต่ว่าหากคุณมีความหวัง มีความฝัน แล้ว
การมีชีวิตของคุณก็ดูมีคุณค่าขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหวัง
และความฝันของคุณด้วยเช่นกัน
หากเป็นความฝันที่ไร้ซึ่งความดีแล้ว
ยิ่งทำให้การมีชีวิตอยู่ของคุณหมดสิ้นคุณค่าไปเลยเช่นกัน .....

จงมีชีวิตเพื่อความหวัง และฝันอันบริสุทธิ์เถิด
และจงทำให้มันเป็นความจริงให้จงได้
แล้วคุณจะพบกับเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความบริสุทธิ์ใจ
และเพื่อนแท้....
ข้อมูลส่วนตัว
 
こなん

พี่รอง
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 10:43:50
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 351
เลขที่สมาชิก: 6
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

ถอนหญ้าด้วยมือ


ถอนหญ้าด้วยมือ
'' ก๊อกๆๆๆๆ ''
เสียงเคาะประตูที่ดังผ่านแผ่นไม้มาพร้อมๆกับเสียง
ที่ดูเหมือนกับเป็นคำสั่งว่า '' ตื่นนอนได้แล้ว
จะได้ช่วยกันทำงาน ''
เด็กน้อยคนหนึ่งตื่นขึ้นมา ท่าทางงัวเงีย สลึมสลือ
มือจับผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาพับและตอบรับเสียงปลุกนั้น
'' อืม.....ตื่นแล้ว ได้ยินแล้ว ''
''นี่วันหยุดนะเนี่ย '' เด็กน้อยบ่นกับตัวเอง
'' เดี๋ยวกินข้าวเสร็จไปถอนหญ้าที่ไร่นะ ''
พ่อสั่งขณะที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาให้ลูกชาย
เด็กน้อยพยักหน้าตอบและลงมือทานอาหารมื้อแรกของวัน
หลังจากทานอาหารเสร็จ
เด็กน้อยเดินไปหยิบหมวกและเสื้อแขนยาวมาสวมเพื่อกันแดด
แล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน กระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานโบราณ
สภาพเก่าโทรม บ่งบอกถึงอายุการใช้งานซึ่งมีพ่อเป็นผู้ขี่
ในระหว่างทางเด็กน้อยคุยกับพ่อตลอด
เขาป้อนคำถามที่อยากรู้
ซึ่งบางครั้งดูเหมือนกับว่าผู้เป็นพ่อจะพยายามสอดแทรกให้แง่คิดตลอด
โดยที่เด็กน้อยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ไม่นานนักก็ถึงไร่ที่เขามีภาระกิจที่จะต้องทำ
'' ถอนหญ้า...
ภาระกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งหญ้าเปรียบเสมือน
ศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่ ''
'' เดี๋ยวเจ้าถอนแปลงนี้นะ ''
พ่อสั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่แปลงผัก
เด็กน้อยรับคำและลงมือถอนหญ้าออกจากแปลงผักทีละต้น
ทีละต้น จนกระทั่งศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่
หายไปจากแปลงผักจนหมดสิ้น
''ไปพักกินน้ำที่ใต้ต้นมะม่วงก่อน....ปะ ''
เด็กน้อยรับคำพ่อแล้วเดินไปพัก
'' กลับมาเร็วๆนะ ยังมีอีกแปลงหนึ่ง ''
เสียงพ่อสั่งตามหลังเด็กน้อย หลังจากได้พักกินน้ำ
พ่อได้ส่งจอบให้เด็กน้อยพร้อมกับพูดว่า
''เอ้า...เอาไปถากหญ้า ''
เด็กน้อยรับจอบและตรงไปยังแปลงผักเพื่อทำภาระกิจต่อ
ดูเหมือนกับว่าเด็กน้อยจะพึงพอใจกับ
การใช้จอบถากหญ้ามากกว่าการใช้มือถอน
เหตุผลก็คือ มันทำให้เขาสามารถทำงานได้รวดเร็ว
ซึ่งไม่นานนักเขาก็จัดการกับ
ศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่อย่างราบคาบ
หลังจากที่ภาระกิจเสร็จสิ้นลง พ่อลูกก็พากันกลับบ้าน
ระหว่างทางเด็กน้อยถาม
''ทำไมไม่ให้ผมใช้จอบตั้งแต่แรกล่ะ ทั้ง ๆ ที่ทำงานได้เร็วกว่า ''
พ่อไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม เก็บซ่อนคำตอบไว้เพียงผู้เดียว
ผ่านไป 1 สัปดาห์ พ่อได้พาเด็กน้อยกลับไปที่ไร่อีก
สิ่งที่เด็กน้อยเห็นก็คือ

** แปลงที่ใช้มือถอน
บัดนี้ไม่มีหญ้าให้เขาถอนเลยแม้แต่ต้นเดียว แต่...
** แปลงที่ใช้จอบถาก กลับมีต้นหญ้าปกคลุมเหมือนเดิม
'' ทำไมมันเป็นอย่างนั้นล่ะ ''
เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย
ทั้งๆที่เขาได้จัดการมันหมดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พ่อตอบ
'' แปลงที่เจ้าใช้มือถอนน่ะ
เจ้าได้ถอนมันถึงรากถึงโคน
ส่วนแปลงที่เจ้าใช้จอบถากน่ะ
เจ้าเพียงแต่ตัดเอาส่วนปลายของมันออกเท่านั้น
มันยังคงมีส่วนที่ฝังลึกอยู่ในดินอีก
มันก็เหมือนกับปัญหาต่าง ๆ ที่เราพบเจอนั่นแหละ
ถ้าเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยปล่อยสาเหตุของปัญหาไว้
ไม่นานนักปัญหานั้นก็จะกลับมา
สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าอีก
แต่ถ้าเราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ มันอาจจะยากสักนิด
แต่มันก็ทำให้ปัญหานั้นหมดไปได้ ''
เด็กน้อยยิ้มรับด้วยความเข้าใจ
'' จงหันหน้าสู้กับปัญหา...จัดการที่สาเหตุ...
และ...อย่าท้อถอย ''
ข้อมูลส่วนตัว
 
こなん

พี่รอง
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 10:44:24
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 351
เลขที่สมาชิก: 6
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

สิ่งดี ๆ ที่ส่งมาให้ไว้เตือนตนเอง


ฉันชอบคำของคนๆนึงที่ว่าไว้ว่า''เมื่อยิ่งใหญ่ให้มองฟ้า เมื่อด้อยค่าให้มองดิน''

ฉันว่ามันเป็นความคิดที่ดีทีเดียว....
ที่สุดยังไงก็มีขั้นกว่าและเป็นการเตือนตัวเอง.....

คนที่รู้จักตัวเอง...จะไม่ดูถูกตัวเอง...และไม่ยกหางตัวเอง
เมื่อเรามองฟ้า...เราจะรู้ว่า
เราก็แค่จุดเล็กๆ จุดหนึ่งในโลกเท่านั้น
จะแหลกสลายไปเมื่อไหร่ก็ได้
นั่นทำให้เราไม่รู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่คับโลก...และดูถูกคนอื่น

แต่เมื่อเราก้มหน้ามองดิน...ที่เหยียบอยู่ตลอดเวลา
ดินก็ไม่เคยบ่น...ว่าตัวเองด้อยค่า...กลับรู้สึกยิ่งใหญ่...
เพราะเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต...คอยพยุงร่างกาย...เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ

ถ้าเราไม่ดูถูกตัวเอง...และไม่ดูถูกผู้อื่น
เราจะอยู่บนโลกนี้ได้ด้วยความคิดที่ว่า...

เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสนธรรมดา...แต่ควรค่าแก่การคงอยู่....
ข้อมูลส่วนตัว
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 11:03:07
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

ว้าว! ดีใจจังมีคนอ่าน คนโพสต์ต่อด้วย อุอุ

คิม




โฆษณา Mikc

ต่อเลยละกันนะครับ อันนี้เป็นวีดีโอโฆษณานะครับ อาจจะต้อง download ไปดูกันที่เครื่องนะครับ

Mikc Ad (http://sssns.kkeonline.com/video/misc/mikc_ad.mpg)



--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 11:18:41
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003



แฟนฉัน

ก๊ากกกก





--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 14:28:25
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003



Formula for Success

A small truth to make our Life's 100% successful..........

If: A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z
Is equal to 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

Then H+A+R+D+W+O+R+K = 8+1+18+4+23+15+18+11 = 98%

K+N+O+W+L+E+D+G+E = 11+14+15+23+12+5+4+7+5 = 96%

L+O+V+E=12+15+22+5=54%

L+U+C+K = 12+21+3+11 = 47%
(None of them makes 100%)

Then what makes 100%
--Is it Money? ..... No!!!!!
--Leadership? ...... NO!!!!

Every problem has a solution, only if we perhaps change our "ATTITUDE".
It is OUR ATTITUDE towards Life and Work that makes OUR Life 100%
Successful...

A+T+T+I+T+U+D+E = 1+20+20+9+20+21+4+5 = 100%
Don't you think so?!?!?!?!



--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
진휘 (อาม)

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 15:12:06
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 826
เลขที่สมาชิก: 28
สมัครเมื่อ: 25/10/2003

เอามั่งๆ

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : ENGINEER
สัญลักษณ์ : EN

มวลรวม : มาตรฐาน 600 N
แต่อาจแปรผันได้ตามภาวะเศรษฐกิจส่วนตัว

มวลสมอง : แปรผกผันกับมวลรวม และมีได้เกิน 1 %

ลักษณะทางกายภาพ:
- ภายนอกเถื่อนถ้ำ ภายในติงต๊อง
- พื้นผิวหมองคล้ำ ไม่ชวนต่อการสัมผัส
- เมื่อถูกเคาะอย่างแรงจะเปล่งเสียงดังกังวานเป็นคำหยาบคาย


- แปรสภาพเป็นวัตถุแข็งเกร็ง (Rigid body)
เมื่อถูกสัมผัสโดยแผ่วเบา
- ถึงจุดเยือกแข็งได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ
แต่การคงสภาพขึ้นอยู่กับชั่วโมงบิน
-เป็นของแข็งที่ประพฤติตนคล้ายไอศครีมคาลิปโปคือดูดอมได้แต่ไม่ละลาย
- ไม่ทนต่อการเสียดสีโดยปราศจากการหล่อลื่น
- สามารถเป็นผู้ออกแรงกระทำได้ดี

คุณสมบัติทางเคมี:
- ทำปฏิกริยาอย่างรวดเร็วกับน้องๆ เฟรชชี่
-ทำปฏิกริยาอย่างรุนแรงกับเด็กบัญชี วารสาร
เศรษฐศาสตร์ และเด็กต่างสถาบัน
- เกิดปฏิกริยานิวเคลียร์กับสาวเกาะอกหรือสายเดี่ยว
- ไม่ทำปฏิกริยากับธาตุ Wo
ที่มีลักษณะสีค่อนข้างคล้ำหรือดำ
มวลมากกว่า 550 N
อายุมากกว่า 20 ปี
- ดูดซึมและส่งผ่านข้อมุลข่าวสารใต้เข็มขัดได้อย่างรวดเร็ว
- มีสมบัติทำละลายเงินได้ดีเมื่อมีแอลกอฮอล์เป็นตัวเร่ง ปฏิกริยา

การทดสอบ:
- วัตถุตัวอย่างจะมีอาการเซื่องซึมในเวลาราชการ
-วัตถุตัวอย่างจะรู้สึกสดชื่นและกระตือรือร้นหลังตะวันตกดิน
- วัตถุตัวอย่างจะช่วยรักษาธรรมชาติเป็นอย่างดี
โดยการปล่อยสัตว์สงวนทั้งหลายออกมาเป็น
จำนวนมากเมื่ออยุ่รวมกัน
- วัตถุตัวอย่างนิยมการเล่นฟุตบอลด้วยโทรศัพท์มากกว่าเท้า


ประโยชน์:
- สืบสานวัฒนธรรมโดยการใช้ภาษาสมัยพ่อขุนรามคำแหง
- เป็นตัวอย่างทึ่ดีต่อเยาวชนในสิ่งผิด
- ช่วยชาติโดยบริจาคเงินผ่านทางกรมสรรพสามิต

ข้อควรระวัง:
- ไม่ควรใช้คำสุภาพในการสนทนา
เนื่องจากจะไม่ได้รับการสนใจใดๆ
เพราะถือว่าเป็นการไม่
ให้เกียรติอย่างรุนแรง
- ห้ามพูดถึงเรื่องเกรดเฉลี่ยหรือ point
สะสมเพราะถือว่าเป็นการหยาบคายอย่างยิ่ง


--
Please READ SIGNATURE RULES before edit your signature !
ข้อมูลส่วนตัว
 
진휘 (อาม)

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 15:17:46
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 826
เลขที่สมาชิก: 28
สมัครเมื่อ: 25/10/2003

เพื่อนเป็นสสารที่แปลก ยิ่งคบกันนาน ก็ยิ่งเปราะบาง

คงไม่มีใครที่จะกล้าลุกขึ้นมาประกาศศักดาว่า
สามารถยืนอยู่บนโลกนี้ได้โดยลำพัง
และปฏิเสธว่า เพื่อน คือ สิ่งฟุ่มเฟือยที่สุดเท่าที่มีมาในประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์มนุษย์อันยาวนาน
เพราะแท้จริงแล้ว ไม่มีใครสามารถยืนอยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียวได้
ไม่ว่าเขาจะเป็นคนเข้มแข็งหรือต่อให้มีขาแข็งสักเพียงไหน
มันต้องมีสักวัน สักเวลา สักวินาที
ที่เขาอยากจะทรุดตัวลงนั่งคุยกับใครบางคน
ซึ่งเขารู้ว่าได้ยืนอยู่ข้างเขาตลอดมา
และพร้อมจะอยู่กับเขาตลอดไป
สิ่งที่เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนและอบอวลอยู่ในคำ ๆ นี้ คือ มิตรภาพ ซึ่งอาจจะก่อตัวขึ้นได้ทุกขณะ
ตั้งเค้าเร็วกว่าพายุดีเปรสชั่นใด ๆ
เพียงแค่ตาสบตา ริมฝีปากกระตุกทำมุมน่ารักกับใบหน้า
เชื่อไหมว่าแค่นี้มิตรภาพก็เดินทางมาถึงแล้ว
มิตรภาพมีความหมายและความสำคัญกับชีวิต ยิ่งใหญ่
เพราะมันเริ่มต้นจากการให้ และสามารถสิ้นสุดลงด้วยเข้าใจ
ไม่เหมือนกับความรักที่มักเริ่มจากการให้
ดำเนินต่อไปด้วยการเรียกร้อง
และมักจะสิ้นสุดด้วยการมองหน้ากันไม่ติด


ฉันไม่ใช่คนมีเพื่อนมาก
เพราะถือว่าเพื่อนไม่ใช่ฟุตบอลที่เมื่อลงสนามก็ต้องรีบวิ่งไปยิงประตูทำแต้มให้ได้มากที่สุดก่อนหมดเวลา
เพื่อนไม่กฎกติกา มิตรภาพไม่มีการพักครึ่งหรือหมดเวลา
และความสัมพันธ์ไม่มีคำว่าแพ้ชนะ ฉันจึงไม่รีบร้อนที่จะมีเพื่อน
มันเป็นเรื่องง่ายในการที่จะหาเพื่อนใหม่
แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะรักษามิตรภาพระหว่างเรากับเพื่อนให้คงอยู่ตลอดไป
เพราะเพื่อนเป็นสสารที่แปลก ยิ่งคบกันนาน ก็ยิ่งเปราะบางและง่ายต่อการแตกหัก

มิตรภาพของเพื่อนที่เติบโตไปพร้อมกับวันเวลาในการคบหา ทำให้คนสองคน (หรือมากกว่านั้น) สนิทกันมากขึ้น จนบ่อยครั้งความสนิทก็ได้ทำให้เราละเลยหรือมองข้ามอะไรบางอย่างไป

บ่อยครั้งความสนิททำให้เราทำร้ายจิตใจเพื่อนโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ หรือโดยที่เราไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ
บางครั้งเราอาจจะปรับความเข้าใจกันได้
แต่ก็มีไม่น้อยที่มันลุกลามและรุนแรงเกินที่เราจะไหวทัน และกว่าจะรู้ตัวมันก็ทำลายอะไรต่อมิอะไรย่อยยับลงไปหมดแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อไหมว่าบางทีมันอาจจะเกิดเพราะคำมักง่ายที่พลั้งปากไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้นเอง


ฉันเคยเห็นเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปี
เลิกคบกันเพียงเพราะอีกคนลืมนัด และทิฐิเกินกว่าจะขอโทษและอีกคนก็ใจแข็งเกินกว่าจะยอมให้อภัย
อาจจะดูงี่เง่า(ซึ่งฉันก็ว่ามันงี่เง่า) แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ก็อย่างที่บอก เพื่อนเป็นสสารที่แปลก ยิ่งคบกันนาน ก็ยิ่งเปราะบางและง่ายต่อการแตกหัก

อย่าให้ความสนิทเป็นดาบสองคมที่จะทำลายมิตรภาพและคำว่าเพื่อนลงเลย
มันอาจจะง่ายในการที่เราจะหา "เพื่อนใหม่"สักคน
แต่มันยากกว่านะ ที่เราจะมี "เพื่อนเก่า"สักคน "เพื่อน" ได้ยืนอยู่ข้างเราตลอดมา และพร้อมจะอยู่กับเราตลอดไป

--
Please READ SIGNATURE RULES before edit your signature !
ข้อมูลส่วนตัว
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 15:42:31
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

ยกคำพูด:

เขียนโดย armdamon:
เอามั่งๆ

ข้อควรระวัง:
- ไม่ควรใช้คำสุภาพในการสนทนา
เนื่องจากจะไม่ได้รับการสนใจใดๆ
เพราะถือว่าเป็นการไม่
ให้เกียรติอย่างรุนแรง
- ห้ามพูดถึงเรื่องเกรดเฉลี่ยหรือ point
สะสมเพราะถือว่าเป็นการหยาบคายอย่างยิ่ง


น้องอามครับ ไม่ทราบว่าน้องอามได้เกรดเฉลี่ยรวมทั้งหมดเท่าไหร่เหรอครับ อุอุ

คิม


--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
진휘 (อาม)

พี่ใหญ่
เขียนเมื่อ:  30/10/2003 19:38:26
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 826
เลขที่สมาชิก: 28
สมัครเมื่อ: 25/10/2003

ยกคำพูด:

เขียนโดย nopadh:
น้องอามครับ ไม่ทราบว่าน้องอามได้เกรดเฉลี่ยรวมทั้งหมดเท่าไหร่เหรอครับ อุอุ

คิม


อยากให้วิญญาณหลุดจากร่างเหรอคับพี่คิม
อย่าดีกว่าม๊าง ช่วงนี้เกรดกำลังออกน๊า


--
Please READ SIGNATURE RULES before edit your signature !
ข้อมูลส่วนตัว
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  31/10/2003 7:41:23
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

ยกคำพูด:

เขียนโดย armdamon:

อยากให้วิญญาณหลุดจากร่างเหรอคับพี่คิม
อย่าดีกว่าม๊าง ช่วงนี้เกรดกำลังออกน๊า


อะจึ๋ย อะจึ๋ย!!!

คิม


--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Aeh (original)

Webmaster
เขียนเมื่อ:  31/10/2003 9:17:48
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 161
เลขที่สมาชิก: 13
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

เรื่อง: ขอแค่ 1 นาที

ขอแค่ 1 นาที
...ชายหนุ่มไฟแรงมุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น
เขามีความฝันจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับแฟนสาว
เธอจะมารอการกลับมาหน้าประตูบ้านเขาทุกวัน
เขาพบเธอยิ้มแย้มต้อนรับสนทนากันและเธอก็กลับไป
วันนี้เขากลับช้ากว่าปกติมาก
แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอเช่นทุกวัน
"โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วนเลยกลับช้า"
เธอยังยิ้มให้เขา

คุณทำงานจนมีรถ มีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้ว
ทำไมยังทำงานหนักอีก"
"ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้
รถที่ดูโอ่อ่ากว่านี้..เพื่อคุณนะจ้ะ"

เวลาผ่านไป 1 ปีหญิงสาวมาบ้างไม่มาบ้าง
แต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องนี้

วันหนึ่งเธอเอ่ยถามเขา
"คุณมีเงินพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง"
"ขอเวลาอีกหน่อยผมอยากซื้อแหวนวงใหม่มาเปลี่ยนให้คุณ"
เขาจุมพิตมือที่สวมแหวนทองวงเล็กเบาๆ
"ฉันบอกหรือว่าอยากได้แหวนวงใหม่"
"ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ..ที่รัก"

3 เดือนแล้วที่เขาไม่เห็นเธอหน้าประตูบ้าน
วันนี้เขามีบ้านหลังใหญ่จึงตัดสินใจลางาน 1 วันเพื่อไปหาเธอ
เขาขับรถคันหรูผ่านเส้นทางที่ขรุขระอย่างยากลำบาก
"นี่คุณต้องเดินผ่านทางเส้นนี้มาหาผมทุกวันเหรอ.."

เมื่อมาถึงแม่ของเธอออกมาต้อนรับและมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้
เขาและบอกทางไปสถานที่ ที่เขาจะพบเธอได้
เนินเขาเล็กๆ รายล้อมไปด้วยดอกไม้แท่นหินสลักชื่อหญิงสาวตั้งอยู่กลางเนิน
มือสั่นเทาเปิดกล่องไม้อย่างช้าๆ ข้างในอัดแน่นไปด้วยกระดาษแผ่นเล็ก
เขาเริ่มอ่านข้อความทีละใบ

"วันนี้คุณกลับมาช้า ฉันรอ2ชม.ไม่เป็นไร ฉันรักคุณ"
"วันนี้ฝนตกฉันยังรอแม้ไม่เจอคุณ แต่ฉันยังรักคุณ"
"ฉันเริ่มป่วยจนไปหาไม่ได้คุณคงไม่ทันสังเกต แต่ฉันยังรักคุณ"
"วันนี้คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่...
คุณคงลืมว่าฉันตอบแต่งงานกับคุณเพราะแหวนวงนี้ ฉันยังรักคุณ"

"ฉันป่วยมากจนไม่อาจไปพบคุณได้...
ภาวนาให้คุณรู้สึกตัวสักทีว่าฉันแค่ต้องการคุณเพราะฉันรักคุณ"

ชายหนุ่มเรียนรู้แล้วว่า...
บางทีสิ่งที่เขาไขว่คว้ามาตลอดชีวิต
อาจเทียบไม่ได้กับสิ่งเล็กน้อยที่เขาเคยได้รับจนเป็นเรื่องปกติของทุกวัน

รถคันหรูแล่นไกลออกไปมีเพียงกล่องแหวนเพชรราคาแพงหน้าหลุมศพ
ที่ดูไม่เหลือค่าอะไรสำหรับเขาอีกต่อไป
ผมมีบ้านหลังใหญ่แต่คงกว้างไปสำหรับอยู่คนเดียว
ผมมีรถราคาแพงแต่ไม่รู้จะขับพาใครไปไหน

ผมมีเวลาอยู่กับงานครึ่งชีวิตแต่ไม่เคยมีเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่ผมรัก
ตอนนี้ผมมีเงินมากมายแต่ไม่อาจซื้อเวลาเพียง 1 นาทีที่จะบอกรักเธอ

ผมมีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ขาดส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ได้

--
Please READ SIGNATURE RULES before edit your signature !
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  31/10/2003 9:19:01
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003



Someone

การที่เราจะคบหาหรือรู้จักใครสักคน
ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม
สิ่งหนึ่งที่ควรท่อง ควรจำไว้อยู่เสมอก็คือ
“คน” เป็นสิ่งมีชีวิต มีทั้งด้านบวก และลบ อยู่ในนั้น

อย่าตั้งใจกับคน 1 คน มากเกินไป
เพราะไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว
อย่าคาดหวังกับคน 1 คน มากเกินไป
เพราะไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคน อยากให้เป็น
อย่าให้เวลากับคน 1 คน มากเกินไป
เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีช่วงเวลาของความเป็นส่วนตัว..คนเดียว
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคน 1 คน มากเกินไป
เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่หลงเหลือความเป็นตัวของตัวเอง
อย่าควบคุมชีวิตคน 1 คนมากเกินไป
เพราะมนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัว เพื่อออกมาจากกฏที่ถูกกำหนด
อย่าบีบบังคับคน 1 คน มากไปกว่านี้
เพราะถ้าคน ๆ นั้น หลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้
คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันที

อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง..



--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Aeh (original)

Webmaster
เขียนเมื่อ:  31/10/2003 9:19:59
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 161
เลขที่สมาชิก: 13
สมัครเมื่อ: 24/10/2003

>> >สองสามวันก่อน แม่ป่วย... ผู้หญิงใจแข็งคนนั้น
>> >ยืนกรานว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด
>> >เธอกินยาจีน พักผ่อนอยู่บ้าน
>> >เสียงบ่นของแม่...หายไป
>> >กลับมีเสียงของใครอีกคนขึ้นมาแทน...เสียงของพ่อ
>> >พ่อที่ปกติแล้วลูกๆทุกคนลงมติว่า...ดุ และเงียบขรึม
>> >วันนี้พ่อกลายเป็นผู้ชายขี้บ่นไปซะแล้ว...
>> >พ่อบ่นทั้งวันและทุกวัน
>> >เรื่องที่บ่นก็มีอยู่เรื่องเดียว...บ่นแม่
>> >พ่อบ่นว่า แม่ไม่ยอมไปหาหมอ
>> >แต่...คนขี้บ่นนี่แหละ
>> >ที่ไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา
>> >ซื้อหายาอมแก้เจ็บคอ
>> >ยาแก้ไข้ที่แม่ใช้ประจำมาวางไว้ให้ข้างเตียง
>> >พ่อ...ที่ปกติชอบออกไปหากับข้าวแปลกๆข้างนอกกิน
>> >เป็นกิจวัตร บ่นว่าเบื่อกินข้าวที่บ้าน
>> >แต่...พ่อก็สั่งฉันไปซื้อกับข้าวที่ร้านโปรดของแม่มากินที่บ้าน
>> >เพียงเพราะไม่อยากให้แม่อยู่บ้านคนเดียว
>> >แม่แตะกับข้าวได้คำเดียว...เอาใจพ่อ
>> >ทั้ง ๆที่ฉันก็ว่ากับข้าวอร่อยดี
>> >แต่...พ่อกลับว่า
>> >วันนี้เชฟฝีมือตก ทำไม่อร่อย...เลยไม่ถูกปากแม่
>> >แล้ววันนี้...แม่อาการดีขึ้น
>> >ลุกขึ้นมาเดินเหินได้นิดหน่อย
>> >บ่น...อยากกินแครกเกอร์กับโกโก้ร้อน
>> >แต่...ของแห้งที่บ้านหมด
>> >รวมทั้งแครกเกอร์ยี่ห้อโปรดด้วย
>> >พ่อ...ผู้ชายที่แสดงออกตลอดเวลา...ว่าเกลียด
>> >การเดินซูเปอร์มาเก็ต
>> >บอกลูก ๆ ว่าน้ำส้มของพ่อหมด ไปซื้อกันเถอะ
>> >พวกเราอมยิ้ม
>> >ผู้ชายปากแข็ง...จะบอกว่าไปซื้อของให้แม่ก็ไม่ได้
>> >ต้องอ้างยังโน้นยังงี้
>> >แต่...แค่ย่างเท้าเข้าห้างสรรพสินค้า
>> >คนจะซื้อน้ำส้มเดินหา...แครกเกอร์ เฮ้อ...
>> >พ่อ...มีโรคประจำตัว...โรคหัวใจ
>> >พ่อต้องเดินช้าๆ
>> >เพราะไม่อยากให้หัวใจทำงานหนักเกินไป
>> >แต่ในซุปเปอร์มาเก็ตวันนี้
>> >พ่อเดิน...เข้าช่องโน้น ออกช่องนี้
>> >เพราะแม่กินได้แต่ข้าวต้ม
>> >ข้าวต้มซองชนิดมีกับพร้อมปรุงถูกพ่อกวาดมาทุกชนิด
>> >เครื่องข้าวต้ม...ทั้งผักดอง ผักกระป๋อง
>> >พ่อหยิบทุกขวดทุกกระป๋องมาอ่าน...หายี่ห้อที่แม่ชอบ
>> >ความจริงจะสั่งฉันไปหาซื้อน่าจะง่ายกว่านะ
>> >แต่พ่อก็เลือกที่จะทำเอง
>> >เพราะพ่อเลือกของเหล่านั้น...ด้วยความรัก
>> >ฉันทำได้แค่เข็นรถตาม...
>> >แต่แค่นี้ก็ยากแล้วนะ
>> >เพราะเข็นตามไม่ทันสักที
>> >ถ้าเทียบกับใจที่ไปถึงชั้นวางขวดผักดองเรียบร้อยแล้ว
>> >ของผู้ชายตรงหน้า
>> >หลังที่เริ่มคุ้มงอตามวัยของพ่อนำอยู่ข้างหน้าหน้าลิ่วๆ
>> >ตาของพ่อ...ที่มีไว้มองผู้หญิงคนเดียวในชีวิต
>> >มองหาแต่สรรพสิ่งที่เหมาะกับแม่
>> >ณ วินาทีนั้น
>> >ฉันอิจฉา...อิจฉาผู้หญิงที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน
>> >อิจฉาแม่ตัวเอง
>> >เพราะพ่อที่ลูก ๆ คุ้นเคย
>> >คือผู้ชายที่ไม่เคยแคร์ใคร...
>> >กับลูกๆ...เรารู้...พ่อรัก
>> >เพราะพ่อแสดงออกกับเราเสมอ
>> >หากกับแม่...พวกเราเพิ่งรู้...พ่อห่วงแม่มากมาย
>> >คงเพราะปกติเราเห็นแต่แม่ที่คอยดูแลพ่อ
>> >โรคประจำตัวพ่อเยอะแยะนี่นา
>> >แม่...ซึ่งเป็นผู้หญิงที่แข็งแรง
>> >อึด...ในสายตาพวกเรา
>> >ยามเมื่อได้รับการดูแลจากพ่อ
>> >ดูเหมือนจะซึ้งไม่ต่างจากเรา
>> >คนซึ่งร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดยี่สิบห้าปี
>> >ดูแลกันและกันยามป่วยไข้
>> >คงไม่มีอะไรน่าชื่นใจไปกว่านี้แล้วมั้ง
>> >ฉันหันมามองรอบตัว
>> >สักวันข้างหน้า...ยามเมื่อชีวิตได้ผ่านวันเวลา
>> >ทั้งความสุข ความทุกข์ ความโศก
>> >จะมีใครสักคนมั้ย...ที่ยืนข้างๆฉัน
>> >ดูแล...ยามที่ฉันป่วยไข้
>> >จะมีใครสักคนมั้ย...ที่จำได้
>> >กับแค่แครกเกอร์ยี่ห้อโปรดของฉัน
>> >จะมีใครสักคนมั้ย...ที่ยอมเดินฝ่าฝูงคนพลุกพล่าน
>> >ที่ตัวเองแสนเกลียด
>> >เพียงเพื่อเครื่องกระป๋อง...
>> >ที่อยากจะเลือกสรรแต่สิ่งดีๆเพื่อคนอันเป็นที่รัก
>> >จะมีใครสักคนมั้ย...ที่ส่งยาอมแก้เจ็บคอให้ฉัน
>> >พร้อมกับบอกว่า ‘คราวก่อนเจ็บคอ กินแล้วหาย นี่ยังเหลือ เอาไปกินสิ’ ทั้ง ๆ
>> >ที่ยาอมหลอดนั้น มันยัง
>> >ไม่ได้แกะ!!!

--
Please READ SIGNATURE RULES before edit your signature !
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
 
Kimamon

ปาปารัสชีประจำเว็บ
เขียนเมื่อ:  31/10/2003 9:24:21
  Re: From my mailbox



ข้อความ: 2398
เลขที่สมาชิก: 11
สมัครเมื่อ: 24/10/2003



Weird Pictures















--
Kimamon! โย่ว!
ข้อมูลส่วนตัว เยี่ยมชมเวบเพจ
Page 1 of 6[1]234...6»




ผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งาน: 6 คนกำลังอ่านกระดานนี้
ขณะนี้มีสมาชิกออนไลน์ 6 คน [ แอดมิน ] [ ผู้ดูแล ]
6 ผู้มาเยือน
0 สมาชิก:

ค้นหา

กำหนดสิทธิ

คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความ
คุณ ไม่สามารถ เพิ่มแบบสอบถาม
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้
คุณ ไม่สามารถ ลบข้อความ
คุณ ไม่สามารถ โหวต