เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิก TBW อาจจะสงสัยว่า ทำไม กระผมจึงนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาให้ดูศึกษาพิจารณาประกอบเรื่องเทคติกการเล่นเดียวจากหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะสิน ทั้งนี้ก็เพื่อให้นักแบดมินตันรุ่นใหม่ระดับมือใหม่-มือสมัครเล่น-ระดับก้าวหน้า ได้มีจิตสำนึก มุ่งมั่นกับการพัฒนาการเล่นของเราให้ดีวัน-ดีคืน มีต้นแบบมีจินตนาการ สานฝันไปสู่เส้นทางของความเป็นแชมป์ได้อย่างภาคภูมิใจ เรามี Idol (ผมขออนุญาตใช้คำนี้นะครับ)ในวงการแบดมินตันไทยเราตั้งแต่ครั้งอดีต (อาจารย์เจริญ วรรธนะสิน และท่านอื่นๆอีก) และในสมัยปัจจุบัน (บุญศักดิ์ พลสนะ และคนอื่นๆอีกเช่นกัน) นักแบดมินตันทุกคนควรจะมี AIM (ผมขออนุญาตใช้คำนี้นะครับ) ของตนเองครับ ผมจึงได้นำเหตุการณ์และบรรยากาศ ในการแข่งขันสิงคโปร์โอเพ่น ปี2007มาเป็นบทเรียน อุทาหรณ์ สอนใจสำหรับนักแบดมินตัน รุ่นใหม่ว่า "กีฬาแบดมินตัน เราไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่นๆในโลกใบนี้ครับ " เป็นกีฬาที่เราสามารถก้าวถึงระดับโลกมาตั้งแต่ครั้งอดีตและตลอดมา จนถึงวันนี้ครับครับ
และกระผมขออ้างอิงข้อความจากหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะสิน ท่านกล่าวว่า "นักแบดมินตันที่ลงสนามด้วยความสุภาพอ่อนโยน ใบหน้าแฝงไว้ด้วยความแจ่มใส รักษามรรยาท ตลอดจนกติกาการเล่นอย่างเคร่งครัด จะเป็นนักกีฬาที่ชนะใจทั้งคนดูและคู่แข่ง
แต่เบื้องหลังความสุภาพและแจ่มใสนั้น แชมเปี้ยนแบดมินตันที่ยิงยงจะต้องมีคุณสมบัติของความกระฉับกระเฉงพกติดตัวลงสนามไปด้วย การเคลื่อนไหวตลอดจนการตีลูกจะต้องมีแววแห่งความกระตือรือร้นที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ มีความกระเหี้ยนกระหือที่จะขยี้คู่ต่อสู้ให้แหลกราญ ภายใต้ขอบเขตของกติกาการแข่งขันแบดมินตัน
นักแบดมินตันที่มีฝีมือเป็นเลิศ แต่ลงสนามอย่างซึมเซา ขาดความกระปรี้กระเปร่านักกีฦฬาอย่างนี้เป็นเพียงผู้เล่นมือดี แต่จะเป็นแชมเปี้ยนแบดมินตันที่ยิ่งยงไม่ได้"
และกระผมขออ้างอิงข้อความจากหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะสิน "มาเล่นแบดมินตันกันเถอะ" ต่อนะครับ ท่านกล่าวว่า "เคน เดวิดสัน เขียนไว้ในตำราแบดมินตันของเขาตอนหนึ่งว่า นักแบดมินตันที่ยิ่งใหญ่จะต้องมีสัญชาตญาณแห่งความเป็นเพชฌฆาตที่อยู่ในส่วนลึกของความเป็นสุภาพบุรุษบนสนามแข่งขัน เป็นคำกล่าวที่บ่งถึงคุณสมบัติของแชมเปี้ยนแบดมินตันได้อย่างชัดเจน และกระผมขออ้างอิงข้อความจากหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะสิน "มาเล่นแบดมินตันกันเถอะ" ต่อนะครับ ท่านกล่าวถึงประเด็นที่ว่า "ความนึกคิดของนักแบดมินตันรุ่นต่างๆ" ดังนี้
"นักแบดมินตันแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ ประเภทมีพลังจิตสูง กับประเภทใจเสาะ แต่ละประเภทจึงลงสนามแข่งขันด้วยความนึกคิดที่ไม่เหมือนกัน ถ้าพบกับคู่ต่อสู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือมีฝีมือเหนือกว่า ประเภทมีพลังจิตสูง จะมีความกระเหี้ยนกระหืออยากจะพบกับมือดีๆ ประเภทใจเสาะ ลงสนามเพื่อให้มือดีต้อน ไม่ได้เตรียมจิตใจที่จะต่อสู้เอาเสียเลย(เรื่องจะเอาชนะยิ่งไม่ต้องพูดถึงใหญ่) กรอบแห่งความนึกคิดของนักแบดมินตันประเภทมีพลังจิตสูง จึงเป็นสิ่งที่นักแบดมินตันควรฝึกตัวเองให้มีคุณสมบัติดังกล่าว
ประวัติของบุญศักดิ์ พลสนะ
ชื่อเล่น แมน
เกิด 22 กุมภาพันธ์ 2525
สูง 178 ซม. หนัก 70 กก.
มือ 15 ของโลก มือ 1 ของไทย เริ่มฝึกฝนแบดมินตัน เมื่อ 9 ขวบ ด้วยการสนับสนุน ของบิดา แมนเริ่มเรียนฝึกฝนแบดที่สนามแบดมินตันเสนานิคม และพัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างก้าวหน้ารวดเร็ว เมื่อแมนอายุได้ 14ปี บิดาตัดสินใจส่งแมนให้ไปฝึกและเรียนแบดมินตันที่ประเทศจีน ภายหลังเดินทางกลับประเทศไทย เพราะบิดาถึงแก่กรรม แมนมีน้องสาว"สลักจิต พลสนะ"นักแบดมินตันหญิงมือ 1 ของไทย เฝ้าติดตามและเจริญรอยตามเส้นทางของพี่แมน
เมื่อแมนกลับมาฝึกซ้อมที่เมืองไทย โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบราราชูปถัมภ์ และผู้มีอุปการะคุณอีกหลายท่าน แมนเป็นนักแบดมินตันที่มีพรสวรรค์ เล่นได้ครบเครื่องทั้งเกมรุก-รับ เริ่มรับใช้ชาติ ในการแข่งขันซีเกมส์ที่บรูไน และติดทีมชาติมาโดยตลอด
แมนผ่านการแข่งขันในระดับนานาชาติมาอย่างโชกโชนทั้งเอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ โดย และในรายการ Asia Cup 2001 แมนนำชัยชนะพาทีมชาติไทยผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย และได้รับการคัดเลือกจากสหัพันธ์แบดมินตันแห่งเอเชียให้เป็นนักกีฬายอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์นี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโอลิมปิกเกมส์ กรุงเอเธนส์ 2004 แมนผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ แม้จะพลาดโอกาสเข้าชิงเหรียญทอง แต่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันคนแรกของไทยที่เข้ารอบ 4คนสุดท้าย สร้างความประทับใจ-ความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ลูกตบ(Smash)
ลูกตบที่สมบูรณ์แบบต้องพุ่งจากหน้าไม้เป็นเส้นตรง พุ่งปักหัวข่ามตาข่ายไปแดนตรงข้ามด้วยความรวดเร็วและรุนแรง
ความหนักหน่วงของลูกตบ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงที่ผู้เล่นใช้อย่างหักโหม แต่ความรุนแรงและได้ผลของลูกตบ มาจากจังหวะของการประสานงานอย่างกลมกลืนลงตัวของการฟุตเวิร์ค การเหวี่ยงตวัดแขนและข้อมือ (Follow Through) เสริมด้วยแรงจากการเปลี่ยนน้ำหนักตัวจากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า(TransFerence of body weight)
การกระโดดตบ เป็นการถีบทะยานตัวขึ้นตบลูก ทำให้สามารถตบลูกในระดับสูง มีมุมตบลูกได้กว้างและลึกดีกว่าการยืนตบ การถีบตัวกระโดดขึ้นในอากาศ บางครั้งทำให้คู่ต่อสู้เกิดความเกรงขาม และบางครั้งยังใช้เป็นการหลอกล่อ(Deception)คู่ต่อสู้ได้ แทนที่จะตบลูกด้วยความรุนแรงเพียงอย่างเดียว อาจจะแตะหยอด ลูก Top Spin สลับก็ได้ ทำให้เกิดความหลากหลายในการตีลูก เกิด(Varieties of Strokes) อย่างไรก็ดีการกระโดดตบใช้แรงสิ้นเปลืองมาก แต่ถ้ากระโดดตบจะทำให้เราได้เปรียบ ตอบโต้ได้ผลเด็ดขาด ก็คุ้มกับการเสียแรงไป
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิก TBWทุกๆท่านครับ เรามาศึกษา-สังเกตการจัดวางท่าทางนักแบดมินตันขณะที่กระโดดขึ้นตบลูกกลางอากาศ ให้สังเกต 3จุด ครับ เข่า-มือ-ตาสายตา
จากภาพ จุดแรก เข่าทั้งสองจะงอ ทั้งนี้เพราะก่อนจังหวะที่นักแบดมินตันจะกระโดดนั้นจะย่อตัวทิ้งน้ำหนักที่ปลายเท้าทั้งสอง แล้วจึงรวมพละกำลังทั้งหมดดีดตัวเองลอยตัวสูงขึ้นกลางอากาศ และพร้อมที่ใช้แรงเหวี่ยงจากท่อนแขน และสายตาจับจ้องลูกอย่างแม่นยำ
จากภาพ จุดที่สอง มือทั้งสองชูสูงไว้ ขณะที่กระโดดลอยตัวสูงกลางอากาศ ทั้งนี้เพื่อรักษาจัดสรีระร่างกายให้มีสภาวะสมดุลย์ไม่ทำให้เสียหลักขณะที่ลอยตัวกลางอากาศและตอนขณะที่กำลังโรยตัวลงสู่พื่นได้อย่างปลอดภัยไม่บาดเจ็บ มือที่จับไม้แบดมินตันพร้อมใช้แรงเหวี่ยงจากท่อนแขนพร้อมสะบัดข้อมือ เงื้อฝาดลูกอย่างรุนแรงและแม่นยำ ส่วนอีกมือชูสูงไปข้างหน้า เพื่อรักษาสภาวะสมดุลย์ขององคาพยพสรีระร่างกาย ขณะที่กำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ และขณะที่กำลังจะลงสู่พื้น จากภาพ จุดที่สาม ตาและสายตาที่ทำงานประสานกับมือในช่วงจังหวะเสี้ยววินาที ใช้มือตบลูกที่ลอยอยู่ได้แม่นยำและรุนแรง
หากจะพิจารณาข้อเปรียบเทียบข้อแตกต่างของนักแบดมินตันโซนเอเชีย-โซนยุโรปในลีลาการจัดวางท่าทางเทคติกการขึ้นกระโดดตบลูกกลางอากาศกันละก้อครับ กระผมว่านักแบดมินตันโซนเอเชีย กินขาดครับ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางท่าทาง-ความสูงที่กระโดดได้-ความรุ่นแรงของการตบ-ทิศทางวิถีของลูก เอาคะแนนความสามารถไปเต็ม 10 เลยครับ ส่วนนักแบดมินตันโซนยุโรป คะแนนความสามารถในเรื่องนี้คงได้ประมาณ 8.5 จาก 10ครับ เพราะยังด้อยในเรื่องของความสูงที่กระโดดได้ ทั้งนี้เพราะนักแบดมินตันโซนยุโรป มีน้ำหนักตัวมาก สูงใหญ่ ทำให้นักแบดมินตันโซนเอเชียกระโดดได้สูงกว่า ทำให้ตบลูกในระดับสูงกระทำได้ มีมุมตบได้กว้างและลึกกว่า สามารถกำหนดวางวิถีของลูกได้แน่นอนแม่นยำกว่า จังหวะการจัดวางท่าทางขึ้นกระโดดตบมีระดับความสามารถพอๆกันครับ ในส่วนของความรุนแรงของการขึ้นกระโดดตบลูกกลางอากาศ นักแบดมินตันโซนเอเชียมีคะแนนความสามารถสูงกว่านักแบดมินตันโซนยุโรปเล็กน้อยครับ
เพื่อนๆสมาชิกลองดูเปรียบนักแบดมินตัน 2คนนี้ ครับ LinDan อายุ25 ปี สูง 178 ซม. หนัก 72 กก. PeterGade ชาวเดนมาร์ก อายุ32 ปี สูง 181 ซม. หนัก 74 กก. และชมภาพลีลาจังหวะการขึ้นกระโดดตบลูกกลางอากาศของนักแบดมินตันทั้งสองคนนี้กันครับ
สวัสดีครับมวลสมาชิก TBW ที่เคารพรักทุกๆท่าน ก่อนหน้ากระผมได้นำเสนอเทคติกการขึ้นกระโดดตบของนักกีฬาแบดมินตันชายไปแล้ว สำหรับหน้านี้ใคร่ขอนำเสนอ การขึ้นกระโดดตบของนักแบดมินตันหญิงบ้างครับ มีทั้งนักแบดมินตันกลุ่มชาติตะวันออก และกลุ่มยุโรป เราคงไม่ค่อยได้พบเห็นนักแบดมินตันหญิงที่การขึ้นกระโดดตบบ่อยนัก ทั้งนี้เนื่องจากสภาพสรีระร่างกาย-ความฟิตของกล้ามเนื้อ-ความแข็งแกร่งของร่างกายของหญิงด้อยกว่าฝ่ายชาย ถ้านักแบดมินตันหญิงคนใด สามารถเทคตัวขึ้นกระโดดตบได้ละก้อ ยกนิ้วให้ในขีดความสามารถของเธออย่างแน่นอน เรามาชมภาพและสังเกตการจัดวางท่าทางเวลาเทคตัวขึ้นกระโดดตบของนักแบดมินตันหญิงกันครับ
สวัสดีครับมวลประชาสมาชิก TBW ที่รักเคารพทุกๆท่านครับ สำหรับหน้านี้เรามาติดตามศึกษาในประเด็น ลูกตบกันครับ เรื่องจังหวะเทคติกการฝึกการตบลูกมีด้วยกัน 4 จังหวะ ให้อ่านศึกษาจากคำบรรยาย และดูจากภาพ ประกอบคำบรรยาย จังหวะที่ 1 ฟุตเวิร์คเข้าสู่ตำแหน่ง ชูไม้และชูแขนให้สูงไว้ สายตาจ้องมองลูกลอยอยู่เหนือศีรษะ จังหวะที่ 2 การวางเท้า ส่งกำลังจากขาหลัก สำหรับคนถนัดขวา เท้าไม่ถนัดอยู่หน้า(เท้าซ้าย) และอยู่ห่างจากเท้าหลังหนึ่งก้าว เมื่อตีเสร็จเท้าซ้ายจะอยู่หลัง เพราะต้องยกเท้าขวาข้ามไปข้างหน้าเท้าซ้าย และสำหรับคนถนัดซ้าย เท้าไม่ถนัดอยู่หน้า(เท้าขวา) และอยู่ห่างจากเท้าหลังหนึ่งก้าว เมื่อตีเสร็จเท้าขวาจะอยู่หลัง เพราะต้องยกเท้าซ้ายข้ามไปข้างหน้าเท้าขวา จังหวะที่ 3สายตาจับจ้องที่ลูก เงื้อไม้ไปข้างหลัง เหวี่ยงแขนตวัดข้อมือ แขนเหยียดตึง พร้อมถ่ายน้ำหนักตัว ฟาดลูกสุดแรง จังหวะที่ 4 ก้าวเท้าตาม จังหวะการตี สำหรับคนถนัดขวาฟาดวาดหน้าไม้มาจากด้านหลังผ่านเหนือศีรษะผ่านจุดตีลูกแล้ววาดหน้าไม้ผ่านแนวทแยงจากบนขวาลงล่างซ้ายพร้อมๆ กันนั้นก็ยกเท้าขวาก้าวผ่านเท้าซ้ายไปข้างหน้าหนึ่งก้าว (สำหรับคนถนัดซ้ายฟาดวาดหน้าไม้มาจากด้านหลังผ่านเหนือศีรษะผ่านจุดตีลูกแล้ววาดหน้าไม้ผ่านแนวทแยงจากบนซ้ายลงล่างขวาพร้อมๆ กันนั้นก็ยกเท้าซ้ายก้าวผ่านเท้าขวาไปข้างหน้าหนึ่งก้าว) แล้วปล่อยแขนไปตามแนวของแรงวงสวิงของแร็กเก็ต (Follow Through)
และมาชมภาพพร้อมคำบรรยาย
สวัสดีครับมวลประชาสมาชิก TBW ที่รักเคารพทุกๆท่านครับ สำหรับหน้านี้เรามาติดตามศึกษาในประเด็น การเพิ่มพลังตบ และการตบให้ได้ความรุนแรง มีเทคติกอะไรบ้าง ?กันต่อครับ 8.การเพิ่มพลังตบ การตบให้ได้ความรุนแรงมีเทคติกคือ -1. ใช้การเหวี่ยงไม้แบดมินตันให้เต็มช่วง หมายถึงเงื้อไม้แบดมินตันไปด้านหลังให้มากที่สุด ยิ่งเยอะแรงตบยิ่งมาก เงื้อไม้แบดมินตันให้ชนก้นไปเลยยิ่งดี ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าละเลยแรงตบจะลดลงเห็นๆ -2. ใช้การฟาดวาดแขนด้านหน้าแบบทะแยงหรืออาจเรียกกากบาทหมายถึงวาดแขนผ่านด้านหน้าทะแยงจากด้านที่ถือไม้แบดมินตันผ่านหน้าแล้วไปจบที่ด้านล่างของด้านที่ไม่ได้ถือไม้แบดมินตันถ้าอยากเห็นภาพให้ถือไม้แบดมินตันชี้ขึ้นสุดแขนเหนือศีรษะแล้วฟาดวาดไม้ชี้ไปด้านหน้าแล้ววาดต่อชี้ไปที่ด้านข้างของขาซ้ายจะเห็นว่าหน้าไม้แบดมินตันจะวิ่งจากเหนือศีรษะขวาผ่านกลางด้านหน้าสู่ล่างนอกขาซ้าย (ถ้าถนัดถือไม้แบดมินตันมือซ้ายให้ถือไม้แบดมินตันผ่านหน้าแล้วไปจบที่ด้านล่างของด้านที่ไม่ได้ถือไม้แบดมินตันถ้าอยากเห็นภาพให้ถือไม้แบดมินตันชี้ขึ้นสุดแขนเหนือศีรษะแล้วฟาดวาดไม้ชี้ไปด้านหน้าแล้ววาดต่อชี้ไปที่ด้านข้างของขาขวาจะเห็นว่าหน้าไม้แบดมินตันจะวิ่งจากเหนือศีรษะซ้ายผ่านกลางด้านหน้าสู่ล่างนอกขาขวา) -3 ขณะไม้กระทบลูกแขนต้องเหยียดตรง ข้อนี้เป็นข้อสังเกต ที่เห็นได้ทั่วไป บางคนขณะตีแล้วข้อศอกงอ ข้อศอกงอเมื่อไหร่แรงตีจะตกเมื่อนั้น ข้อนี้พิสูจน์ได้ลองนำไปฝึกไปใช้ในสนาม 9.ฝึกทิศทาง ข้อนี้ต้องฝึกตีลูกบ่อยๆ แล้วสังเกต ผลลัพธ์ว่าเป็นอย่างไร สมองเราจะจดจำ และจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล และสร้างความสัมพันธ์ของลักษณะต่างๆ และเมื่อถึงเวลาเราใช้ สมองสั่งการ สมองจะดึงมาเทียบกับข้อมูลเดิมแล้วเราจะรู้โดยSENSEว่าตีอย่างไรจึงจะได้ทิศทางที่ต้องการ
ขอขอบคุณมวลประชาสมาชิก TBW ทุกๆท่านที่ติดตามกระทู้นี้เสมอมาครับหากมีข้อแนะนำ หรือต้องการทราบประเด็นใด ? ก็ยินดีน้อมรับฟัง แสดงความคิดเห็นได้ครับ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองประสบการณ์ร่วมกันครับ