เพื่อนๆสมาชิกคับก่อนหน้านี้ผมเคยนำเทคติการเล่นคู่ จากหนังสือ"มาเล่นแบดมินตันกันเถอะและแบดมินตันความหลัง"ของอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน มาให้เพื่อนๆสมาชิกได้ศึกษาในเวปบอร์ดคุยกันฉันเพื่อนไปแล้ว เพื่อเป็นการเผยแพร่คุณค่าของหนังสือเล่มนี้ผมจึงถ่ายทอดเทคติกการเล่นเดียวต่ออีกคับ เพื่อนๆมาแวะชมอ่านศึกษากันนะคับ ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อนๆสมาชิกให้ความสนใจ
เทคติกการเล่นเดียว การตีลูกทุกครั้งจะต้องกระทำด้วยความเด็ดขาดไม่ลังเลใจ เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าเป้าหมายที่กำลังจะตีไปนั้นปลอดภัยและไม่ทำให้เสียเปรียบ ก็ให้ตีลูกไปทันที โดยคำนึงถึงโอกาสที่จะเล่นลูกหลอกล่อต่างๆไว้เสมอ
1.การตอบโต้ลูกเสิร์ฟ
การตอบโต้ลูกเสิร์ฟต่ำ(เสิร์ฟสั้น)ปัจจุบันเป็นที่นิยมของนักแบดที่มักเสิร์ฟลูกต่ำ เมื่อแน่ใจว่าการส่งลูกของคู่ต่อสู้เป็นการเสิร์ฟลูกต่ำ ผู้เล่นต้องพุ่งตัวเข้าไปตีลูกข้างหน้าทันทีอย่ารอให้ลูกวิ่งเข้ามาหาเราเอง เพื่อรักษาระดับการตีลูกให้สูง และใช้ตีลูกกดลงต่ำซึ่งถ้ารอให้ช้ากว่านี้ ก็จะกลายเป็นการใช้ลูกงัดใต้มือ ส่งลูกข้ามไปให้อีกฝ่ายมีโอกาสกดต่ำข้ามมา
เป้าหมายใช้สำหรับตอบโต้ลูกเสิร์ฟต่ำที่ได้ผลปลอดภัยห่างจากตัวคู่ต่อสู้ได้แก่การแย็บหรืองัดโยนตรงไปสองมุมหลัง หรือหยอดทิ้งไว้สองมุมหน้า ให้ระวังการแย็ปลูกที่คู่ต่อสู้อาจดักไว้ก่อน ทำให้ผู้แย็บเสียเปรียบ เพราะลูกอาจกระดอนข้ามมาด้วยความเร็วไปยังส่วนหลังของสนาม
การตอบโต้ลูกเสิร์ฟสูง(เสิร์ฟยาว) การเล่นเดี่ยวปัจจุบันไม่ใคร่นิยมเสิร์ฟมากนัก ในเกมเสิร์ฟสูงผู้เล่นจะถอยหลังไปตีลูกณส่วนหลังของสนาม โดยกำความได้เปรียบที่กดข้ามตาข่ายไป ยิ่งถ้าเป็นลูกเสิรฟ์ที่ไม่ถึงหลัง ผู้เล่นควรใช้ลูกตบ โดยเล็งไปยังเป้าหมายที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง 2 จุดข้างสนาม และลูกโด่ง2 มุมหลังสนาม หรือแตะหยอดที่2มุมหน้าอีก 2มุมรวมเป็น 6จุดด้วยกัน ซึ่งส่วนมากการจี้โยนหลังจะให้ความปลอดภัยในการตอบโต้ของการเล่นเดี่ยวมากกว่า
2.ลูกทแยงสนาม
ลูกทแยงสนามที่ใช้ได้ถูกสภาวการณ์ จะเป็นลูกที่ได้ผลมากลูกหนึ่ง ควรสลับกับการเล่นลูกครึ่งตบครึ่งตัด(ลูกท็อปสปริ้น) ทแยงสนามจะช่วยเพิ่มมุมการรุกโจมตีมากขึ้น ซึ้งบางครั้งอาจทำให้คู่ต่อสู้ต้องผละจากจุดศูนย์กลางอย่างผลีผลาม ในกรณีเช่นนี้ผู้เล่นอาจจะตบลูกขนานเส้นเป็นการซ้อนกล ย้อนรอยคู่ต่อสู้ได้
การเล่นลูกทแยงก็ต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง เพราะผู้เล่นพลาดพลั้งเสียทีได้โดยง่าย โดยเฉพาะลูกหยอดทแยงอาจถูกคู่ต่อสู้ดักตะปบลูกไปสู่มุมหลัง ดังนั้นการแตะหยอดทแยงควรหยอดที่มุมหน้าและให้ระยะสั้นที่สุดด้วยความแม่นยำแน่นอน คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสผลักลูกไปหลังได้
ยังมีเทคติกอื่นๆอีกคับ สำหรับการเล่นเดี่ยว เพื่อนๆคอยติดตามนะคับ เช่นการตบ การพรางหน้าไม้ การคาดการล่างหน้า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพํฒนาฝีมือการเล่นของเราคับ
3.ลูกตบ
ลูกตบที่จะทำให้คู่ต่อสู่รับได้ยาก คือลูกตบที่พุ่งขนานเส้นข้าง เพราะเป็นการตบลูกวิถีตรงมีระยะทางวิ่งสั้นที่สุด ลูกตบต้องมีวิถีความสั้น-ยาวไม่ช้ำกัน ตบยาวบ้าง-ตบสั้นบ้าง จำทำให้คู่ต่อสู้ตั้งแนวการรับด้วยความลังเลใจ เมื่อผู้เล่นตบลูกข้ามไปแล้ว ควรเตรียมตัวเพื่อหาจังหวะตบซ้ำ ลูกที่คู่ต่อสู้รับข้ามมาไม่ถึงหลัง โดยชูไม้ให้สูง ถ้าคู่ต่อสู้กระดิกหยอดข้ามมา ไม้ที่พุ่งเข้ารับลูกหยอด ควรดักตีลูกในระดับสูงที่สุด อย่าใช้ลูกใต้มือโดยไม่จำเป็น ผู้เล่นจะวางลูกหยอดหรือกระแทกลูกไปหลังก็ได้
*ในเกมเล่นเดียว จะไม่ใช้ลูกตบมากเท่ากับการเล่นคู่* ควรตบลูกที่คู่ต่อสู้โยนข้ามมาไม่ถึงหลัง(เศษสามส่วนสี่ของสนามถือว่าสั้น) สลับลูกแตะหยอดหรือจี้โด่งมุมหลังในบางโอกาส ควรใช้ลูกตบให้เป็นประโยชน์ในการข่มขวัญให้คู่ต่อสู้เกิดความกังวลใจ ช่วยให้การตีลูกอื่นๆได้ผลมากยิ่งขึ้น
*ลูกตบเป็นลูกเด็ดขาดก็จริง* แต่ผู้เล่นเดี่ยวไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อโดยมุ่งหวังที่จะทำให้ตายในทีเดียว การตบลูกในขณะที่คู่ต่อสู้มีหลักการตั้งรับดี สามารถรับลูกกลับมาในมุมที่ทำให้ผู้ตบต้องวิ่งแก้ไขในระยะไกล ก็จะเป็นการเปลืองแรงของฝ่ายตบลูก ผู้เล่นควรบุกเบิกทางด้วยลูกอื่นๆเสียก่อน จนคู่ต่อสู้เสียหลักแล้ว จึงจะใช้ลูกตบอย่างได้ผลเต็มที่
*ในเกมเดี่ยวการรับลูกตบ* ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการตบลูก ผู้เล่นควรตั้งแนวการรับโดยยืนห่างจากเส้นส่งลูกสั้นประมาณ 3 ฟุต ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับสามารถดักรับลูกในระดับสูง เป็นการย่นช่องว่างของสนามให้แคบลง การกำหนดจุดศูนย์กลางการตั้งรับดังกล่าว อาจทำให้ผู้รับรู้สึกอึดอัดใจในตอนแรก เพราะต้องคอยรับลูกตบในระยะที่ใกล้กว่าเดิม แต่เมื่อฝึกจนชินแล้ว จะไม่รู้สึกอะไรเลย กลับพบว่าการรับลูกตบ ณ จุดดังกล่าวทำให้ผู้เล่นได้เปรียบคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก
4.การกำหนดเป้าหมายต้องสลับกันเสมอ
อย่าให้คู่ต่อสู้จับทางของเราได้ การจี้ลูกไปสู่มุมที่เป็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ อาจจะต้องตีลูกนำไปสู่อีกมุมหนึ่ง เพื่อดึงให้ฝ้ายตรงข้ามเปิดช่องว่างให้มากขึ้น แล้วจึงจี้ลูกไปยังจุดอ่อนอย่างได้ผล เช่นถ้าคู่ต่อสู้มีจุดอ่อนที่มุมแบ๊กแฮนด์ ท่านควรจี้ลูกไปยังมุมโฟร์แฮนด์ก่อน เพื่อดึงให้คู่ต่อสู้พาตัวไปซีกโฟร์แฮนด์ แล้วจึงจะตีลูกไปสู่มุมแบ๊กแฮนด์ โดยวิธีนี้จะทำให้จะทำให้การจี้มุมแบ๊ดแฮนด์ได้ผลมากขึ้น คู่ต่อสู้ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยลูกเหนือศรษะ และถูกบังคับให้ตีลูกด้วยหลังมือ อันเป็นจุดอ่อนที่ฝ่ายเราต้องการ สำหรับทำคะแนนไปสู่ชัยชนะ
5.จุดศูนย์กลาง ผู้เล่นต้องสร้างแนวป้องกันให้แก่ฝ่ายตนไว้อย่างรัดกุมที่สุด เพื่อยึดเป็นหลักในการเตรียมตัวตั้งรับหรือบุกโจมตีในทุกส่วนของสนามอย่างได้ผลและกินแรงน้อยที่สุดหนทางที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าว ได้แก่การกำหนดจุดศูนย์กลางของสนามในฝ่ายตน
จุดศูนย์กลางของเกมเดี่ยวอยู่ที่เส้นกลางที่ห่างจากเส้นส่งลูกสั้นมาทางหลังสนามประมาณ 3 ฟุตเศษ เมื่อผู้เล่นยืนคร่อมเส้นกลาง ณ จุดดังกล่าว ก็เท่ากับอยู่ศูนย์กลางของสนาม จะสังเกตว่าจุดศูนย์กลางสนามดังกล่าวแท้จริงแล้วมิได้อยู่จุดศูนย์กลางสนามอย่างแท้จริง แต่จะค่อนไปทางตาข่ายเล็กน้อย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะลูกแตะหยอดสองมุมหน้ามีระยะทางวิ่งของลูกสั้นกว่าลูกโยนโด่งหลังถึงเกือบเท่าตัว การยืนค่อนไปด้านหลังเล็กน้อยเช่นนี้ จะทำให้รัศมีการครอบคลุมสนามด้านหน้าตาข่ายมีความสมบูรณ์ขึ้น ผู้เล่นไม่เพียงแต่วิ่งเข้ารับลูกได้ทันท่วงที ยังสามารถตีลูกในระดับสูง ทำให้มีมุมการตีกว้างขึ้น โอกาสที่จะใช้ลูกหลอกล่อสองจังหวะมีมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ จากจุดศูนย์กลางดังกล่าว ผู้เล่นยังสามารถรับลูกตบในระดับสูงขึ้น ลูกจะกระดอนข้ามตาข่ายไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสั้นกว่ารับลูกตบที่นักแบดมินตันชอบถอยกรูดไปอยู่หลังสนาม ถึงแม้ว่าในชั้นต้นผู้เล่นจะไม่ชินกับการรับลูกตบที่พุ่งข้ามอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่การฝึกฝนให้ชินต่อวิถีและความเร็วของลูก ณ จุดศูนย์กลางดังกล่าว การรับลูกตบจะไม่มีปัญหาเลย ผู้เล่นเพียงชูไม้ให้สูงไว้
จุดศูนย์กลางจะเป็นฐานทัพของนักเล่นเดียว ไม่ว่าผู้เล่นจะพาตัวไปตีลูกยังส่วนใดของสนาม เมื่อตีลูกตอบโต้ข้ามไปแล้ว จะต้องพาตัวกลับมายังฐานทัพดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นแบ่ง ช่องว่าง ของส่วนต่างๆของสนามให้อยู่ระยะเท่ากัน แผ่รศมีแนวป้องกันได้ทั่วทุกส่วนของสนาม โดยมีข้อยกเว้นว่า เมื่อผู้เล่นสามารถหยอดลูกได้ชิดตาข่ายมาก ก็ไม่จำเป็นถอยกลับมาสู่จุดศูนย์กลางทันที ควรชูไม้คอยดักแย็บลูกที่ฝ่ายตรงข้ามอาจเสี่ยงหยอดตอบ เพราะการหยอดลูกชิดตาข่าย แม้ผู้รับจะงัดโด่งกลับมา จะข้ามมาในมุม 90 องศา ผู้เล่นสามารถถอยตบได้สบาย
ขอบคุณมากครับ
จะจดจำและพยายามนำไปใช้ครับ
อยากได้การเล่นคู่อะครับ
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องสมาชิกที่ให้ความสนใจ ในส่วนของหนังสือดังกล่าว คงหายากครับ เป็นหนังสือที่พิมพ์ตั้งแต่ 2519 ราคาเล่มละ 50 บาท โดยสยามกีฬา ไม่เป็นไรหากเพื่อนสมาชิกใจสนใจก็ยินดีถ่ายทอดความรู้จากหนังสือให้ครับ
หนังสือของอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน มีความหนา 252 หน้า ปัจจุบันอาจารย์เจริญ วรรธนะสินก็ยังทุ่มเทหัวใจ-กายให้กับวงการแบดมินตันไทย ผมมีภาพประทับใจขณะที่อาจารย์เล่นแบดซึ่งจะแตกกับรูปแบบการเล่นแบดในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง สมัยนั้นอุปกรณ์การเล่น ไม้ พื้นสนามก็ไม่ลำ้เลิศไฮเทคเท่ายุคนี้ แต่ทักษะ รูปแบบการเล่น จินตนาการการสร้างสรรค์เกม ไหวพริบปฏิภาณของนักกีฬาสมัยก่อนล้ำลึกกว่ายุคนี้ครับผม จึงใคร่ขออนุญาตนำเทคติกการเล่นที่อาจารย์เขียนไว้ในหนังสือมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สมาชิกได้อ่านศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะ ฝีมือ มีแนวการเล่นที่เป็นมาตรฐานที่ดีไว้ครับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มยุวชน-เยาวชนที่มีใจรักแบดมินตันได้ศึกษา และเห็นตัวอย่างที่ดีอาจกล่าวได้ว่าอาจารย์เจริญ วรรธนะสินเป็นตำนาน"นักตบลูกขนไก่"แห่งสยามประเทศครับ
เพื่อนๆพี่ๆน้องสมาชิกทุกท่านคับ เรามาติดตามศึกษาเทคติกการเล่นเดียวต่อนะคับ6.เป้าหมายสี่มุมสนาม การที่จะบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องวิ่งไกลที่สุด เสียแรงมากที่สุดและตอบโต้กลับมาด้วยความยากลำบากที่สุด ได้แก่การตีลูกไปสู่เป้าหมายที่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลาง (อยู่ในประเด็นข้อที่5) ซึ่งได้แก่สี่มุมสนามของฝ่ายตรงข้าม(ด้านชิดตาข่าย 2มุม และด้านหลัง 2มุม) ผู้เล่นตีลูกสู่มุมได้แม่นยำเท่าไรจะมีผลบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องผละจากจุดศูนย์กลางมากเท่านั้น และเปิดช่องว่างให้กว้างขึ้นสำหรับการบุกโจมตี เป้าหมายสองมุมหลัง ถ้าผู้เล่นรู้จักโยนโด่งไปสู่เป้าหมายดังกล่าวแล้ว นอกจากจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องถูกดึงไปตีลูกถึงหลังสนามแล้ว ยังเป็นเป้าที่ปลอดภัย โดยเฉพาะยิ่งมุมที่คู่ต่อสู้ต้องตีด้วยลูกหลังมือโต้ตอบมา
ลูกโยนโด่งจี้ไปยังสองมุมหลัง (Attacking Clear) ผู้เล่นต้องกำหนดระดับความสูงของลูกตามสมควรแก่สถานการณ์ ถ้าคู่ต่อสู้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม ระดับความสูงของต้องสูงเกินกว่าที่คู่ต่อสู้จะกระโดดตะปบลูกได้ มิฉะนั้นคู่ต่อสู้จะตอบโต้ลูกโดยไม่ถูกดึงไปสู่มุมใดมุมหนึ่งตามที่ต้องการ เท่ากับเป็นการต่อให้คู่ต่อสู้รับผิดชอบต่อสนามที่เล็กกว่า
ในทำนองเดียวกัน ถ้าคู่ต่อสู้เสียหลักเซไปอีกด้านหนึ่งของสนาม ลูกโยนก็ควรจะลดระดับความสูงเพื่อตัดเวลาการวิ่งของลูกให้สั้นลง บังคับให้คู่ต่อสู้ตีลูกในเวลาที่จำกัดที่สุด
การตีลูกไปสู่เป้าหมายสองมุมหน้าตาข่าย คือลูกแตะหยอด หรือลูกหยอดธรรมดา ลูกที่ข้ามไปนั้นจะต้องมีวิถีโค้ง และปักหัวลงเมื่อพ้นตาข่าย หากวิถีลูกแตะหยอดดาดเกินไป เสี่ยงการติดตาข่ายหรือไม่ก็ลูกตกห่างจากตาข่ายมาก ถ้าเป็นลูกหยอดธรรมดา ลูกจะต้องเชิดหัวขึ้นเล็กน้อยและตกย้อยชิดตาข่าย ซึ่งจะดึงให้คู่ต่อสู้ต้องเข้ามาตีลูกทางด้านหน้าสุดของของสนาม
7. การคาดการล่วงหน้า
การเล่นเดี่ยวถ้าผู้เล่นรู้จักคาดการล่วงหน้าถึงเป้าหมายและวิถีการตีลูกของคู่ต่อสู้ได้ ก็จะมีส่วนให้การผละออกจากจุดศูนย์กลางกระทำได้เร็วขึ้น เป็นผลนำไปสู่การตีลูกในระดับสูง ซึ่งเท่ากับมีเวลาการตีลูกให้ตนเองมากขึ้น พร้อมกับตัดเวลาการเตรียมตัวการตีลูกของคู่ต่อสู้ให้น้อยลงไปอีก
การรู้จักคาดการล่วงหน้า อ่านทางตีลูกของคู่ต่อสู้ จะทำให้การรุกับรับได้ผลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวิ่งเข้าตีลูกในระดับสูงดังกล่าว จะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการใช้ลูกสองจังหวะ เพื่อจะได้มีเวลา มากพอที่จะรอให้คู่ต่อสู้ขยับตัวก่อนที่ผู้เล่นจะกำหนดเป้าหมายขั้นสุดท้ายในการตีลูก
การคาดการล่วงหน้าในการตีลูกของคู่ต่อสู้ ผู้เล่นต้องคำนึงและวิธีเล่นของนักแบดแต่ละคน ซึ่งมักจะส่งลูกจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่งซ้ำซากเป็นประจำ ถ้าใช้ความสังเกตให้ดีแล้ว ก็จะอ่านทางตีลูกของคู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้น
การคาดการล่วงหน้า อ่านทางตีลูกของคู่ต่อสู้ มิได้หมายความว่าท่านจะขยับตัวก่อนการตีลูกของคู่ต่อสู้ทุกครั้ง แต่ผู้เล่นสามารถเตรียมตัวพุ่งไปสู่จุดหมายดังกล่าวได้เร็วขึ้นกว่าเดิม การขยับตัวผละออกจากจุดศูนย์กลางอย่างผลีผลาม จะกลายเป็นการเล่นรน ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้การตีลูกไม่สมบูรณ์แล้ว ยังอาจพาให้เราเอง หลงทาง ที่คู่ต่อสู้ใช้ลูกสองจังหวะหลอกล่อ(Deceptive Play)ไว้ก็ได้
เทคติกการเล่นเดี่ยวยีงมีสาระสำคัญอีกคับ เพื่อนๆพี่น้องๆคอยติดตามและศึกษานะคับเพื่อเป็นแนวทางพัฒนาฝีมือกันและเล่นแบดอย่างมีกลยุทธ วิธีเล่นหลากหลาย เล่นแบดอย่างมีความสนุกสนานกับเกม ตามที่อาจารย์เจริญ วรรธนะสินได้เขียนไว้คับ
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกคงมีโอกาสได้อ่านศึกษาและนำเทคติกการเล่นเดี่ยวจากหนังสือของอาจารย์เจริญ วรรธนะสินไปปรับไปพัฒนาฝีมือการเล่นของเราให้สมบูรณ์แบบยิ่งขี้นเอาไปใช้จริงเมื่อเราอยู่ในสนามแบดมินตันคับ เรามาติดตามเทคติกการเล่นเดี่ยวต่อนะคับ8.การพรางหน้าไม้แร็กเก็ต นอกจากการใช้ลูกสองจังหวะสำหรับหลอกล่อคู่ต่อสู้แล้ว เราทราบดีว่าคู่ต่อสู้รู้จัก อ่าน คาดการตีลูกล่วงหน้าอยู่เสมอ ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดอันตรายสำหรับการตีลูกไปสู่จุดหมายต่างๆได้ เพื่อลดประสิทธิภาพการคาดการล่วงหน้าและดักลูกของคู่ต่อสู้ ผู้เล่นต้องฝึกหัดตีลูกโดยซ่อนหน้าไม้แร็กเก็ต อันเป็นคุณสมบัติที่นักแบดมินตันที่ดีจะขาดเสียมิได้ การพรางหน้าไม้แร็กเก็ต หมายถึงการตีลูกที่ไม่แสดงออกให้คู่ต่อสู้รู้เห็นได้ล่วงหน้าว่าลูกที่กำลังจะตีไปนั้น จะมีเป้าหมาย วิถี หรือความเร็วชนิดใด การเตรียมตัวเงื้อตีลูกแต่ละครั้ง จะเป็นลูกตบ ลูกโยน หรือลูกแตะหยอดก็ดี อิริยาบถการเหวี่ยงตีให้กระทำเหมือนกันหมด ถ้าจังหวะการตีลูกเหมือนกันหมด คู่ต่อสู้จะมีความหนักใจอย่างยิ่ง ไม่กล้าขยับตัวผละจากจุดศูนย์กลางโดยเร็ว หรืออาจจะเกิดวิ่งสวนทางกับลูกเพราะคาดการผิดก็ได้ ทำให้การตีลูกสลับต่างๆของเราได้ผลดีขึ้นหลายเท่า
9.ลูกหลอกล่อสองจังหวะ
ควบคู่ไปกับการพรางหน้าไม้แร็กเก็ต แผนการตั้งกลลวงให้คู่ต่อสู้คาดการผิดผละจากจุดศูนย์กลางไปอีกทางหนึ่ง แล้วจึงตีลูกไปสู่อีกทางหนึ่ง การตีลูกเช่นนี้เรียกกันทั่วไปว่าตีลูกสองจังหวะ ซึ่งอาจจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามหลงทางจนรับลูกไม่ได้หรืออาจจะหวนกลับตัวไปตีลูก แต่ก็เป็นการตอบโต้ที่กลับมาอย่างไม่มีพิษสงมากเท่าใดนัก
ลูกสองจังหวะที่ใช้กันมากที่สุดได้แก่ลูกที่ผู้เล่นทำท่าจะโยนแต่แล้วกลับตีเป็นลูกแตะหยอด หรือกลับกันโดยทำท่าจะแตะหยอดแต่กลับโยนลูกโด่งจี้ไปหลังสนามจะเป็นการโยนโด่งขนานเส้น หรือโยนทแยงสนามไปสู่มุมใดก็ตาม
ลูกงัดหน้าตาข่าย(ซึ่งรับจากลูกแตะหยอด หรือลูกหยอดธรรมดาของคู่ต่อสู้)ก็ใช่สำหรับเล่นลูกสองจังหวะได้เช่นกัน แต่จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นวิ่งเข้าประชิดลูกด้วยความเร็ว พุ่งตัวเข้าตีลูกในระดับสูง มีเวลาพิเศษสำหรับหลอกล่อให้คู่ต่อสู้ขยับตัวก่อน ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ขยับตัว ก็แตะหยอดทิ้งเบาๆไว้บริเวณตาตาข่าย แต่ถ้าคู่ต่อสู้ขยับตัววิ่งเข้ามา ให้กระแทกหรือตวัดลูกไปด้านหลังสนาม บังคับลูกอย่าให้โด่งมาก แต่ก็ไม่ต่ำจนคู่ต่อสู้กระโดดดักลูกได้
*ลูกสองจังหวะต้องอาศัยการฝึกฝนมาก เพื่อให้เกิดความแน่นอนไม่ตีเสียเอง ถ้ารู้จักใช้ถูกกาละเทศะ จะเป็นลูกที่ทำให้คู่ต่อสู้สะดุดหรือชะงักก่อนตีลูกทุกครั้ง จะเป็นการบั่นทองกำลังของคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างมาก*
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกเมื่อได้อ่านศึกษาแล้วจะมีข้อสังเกตว่า ถ้อยคำสำนวนภาษาที่อาจารย์ใช้สละสลวยเรียบง่าย เข้าใจง่าย เกิดจินตนาการไปในตัว เสมือนได้เรียนฝึกฝนกับอาจารย์เจริญ วรรธนะสินเลยที่เดียว เพื่อนๆสมาชิกควรอ่านทบทวนหลายๆครั้งจะได้เกิดการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้จริงตอนฝึกซ้อมหรือแข่งขันเลยที่เดียว
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกคับ เราลองมาอ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในหนังสือที่อาจารย์เจริญ วรรธนะสินได้เขียนไว้บ้างว่านักแบดเล่นเดี่ยวที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง จะได้เป็นแนวทางก้าวไกลเพื่อขึ้นบันไดแห่งความสำเร็จประกาศว่าเป็นผู้ได้รับชัยชนะ
1.ความสมบูรณ์ของร่างกาย พละกำลังที่ต่อสู้โดยไม่รู้จักเหนื่อย
2.ความแม่นยำในการตีลูกให้ถึงมุม มีความยาวดื่มดำสุดสนาม ความนิ่มนวลในการเล่นลูกหยอด ตีลูกได้เชื่องอยู่ใต้การบังคับของตนเอง
3.พลังจิตที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะเหนือคู่ต่อสู้ในทุกวิถีทาง มีสัญชาตญาณแห่งความดุดันในเกม(Killer Instinct)
โดยยึดหลักเกณฑ์ว่า การตีลูกข้ามตาข่ายไปแต่ละครั้งนั้นจะต้องทำให้คู่ต่อสู้
1.วิ่งไกลที่สุด
2. เสียแรงมากที่สุด และ
3.ตอบโต้ตีลูกกลับมาได้ยากที่สุด
แบดมินตันเป็นกีฬาที่ต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่เพียงแต่เล่นเกมเท่านั้น แต่นักแบดมินตันที่ประสบความสำเร็จก้าวขึ้นบันไดประกาศว่าเป็นผู้ชนะนั้น อาจารย์เจริญ วรรธนะสินกล่าวว่า"ต้องรู้จักใช้ความคิด นับตั้งแต่การฝึกซ้อม ทะนุบำรุงตัว ตลอดจนวางแผนวิธีการเล่นกับคู่ต่อสู้แต่ละคน และต้องมีปรมาจารย์คอยแนะนำ ฝึกสอน" และปรมาจารย์ที่สอนนั้นมิได้สอนแต่เฉพาะการเล่นแบดเท่านั้น ต้องฝึกสอนจิตนักแบดให้มีความแข็งแกร่ง รักษาวินัย และที่สำคัญที่สุด ต้องคอยอบรมนักแบดไม่ให้เกิดความจองหองหรืออวดดี ผู้ที่เป็นปรมาจารย์คอยแนะนำฝึกสอนอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน คือคุณหลวงธรรมนูญวุฒิกร(นายประวัติ ปัตตพงศ์)
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกผู้มีจิตใจรักผูกพันกับกีฬาลูกขนไก่คับ ผมได้ถ่ายทอดความรู้เทคติกการเล่นเดียวจากหนังสือ"มาเล่นแบดกันเถอะและแบดมินตันแห่งความหลัง"ของท่านอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมนำสิ่งดีๆเทคติกต่างๆกลยุทธชั้นเชิงทักษะการเล่นแบดมินตันอย่างมีหลักเกณฑ์มีมาตรฐาน เพื่อพัฒนาฝีมือของเราให้ก้าวล้ำดียิ่งขึ้น ฉะนั้นบรรดาผู้มีจิตสมัครรักกีฬาลูกขนไก่ก็สามารถนำไปปรับปรุงใช้ได้จริงๆ ท่านอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน เขียนเรียบเรียงขึ้นด้วยจิตวิญญาณของผู้มีจิตรักเกมกีฬาลูกขนไก่อย่างแท้จริงครับ อาจกล่าวได้ว่าท่านเป็น"ตำนานนักตบลูกขนไก่ของสยามประเทศครับ"
และหนังสือของอาจารย์เจริญ วรรธนะสินยังมีภาพเกียรติประวัติของอาจารย์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโล่ห์รางวัลแก่อาจารย์เจริญ วรรธนะสิน ซึ่งครองตำแหน่งแชมเปี้ยนชายคู่และรองแชมเปี้ยนชายเดี่ยวไทยแลนด์อินวิเตชั่น เก็บเงินบำรุงสภากาชาดไทย พ.ศ.2502
การที่ผมอัญเชิญภาพนี้มาเพื่อต้องการให้พสกนิกรชาวไทยได้เห็นน้ำพระทัยอันล้นเปี่ยมของพระองค์ พระจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์ท่านมิใช่เฉพาะสำหรับอาจารย์เจริญ วรรธนะสินเท่านั้น หากแต่ยังมีต่อการกีฬาแบดมินตันของไทยเราด้วย อาจารย์เจริญ วรรธนะสินเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ตอนแบดมินตันแห่งความหลังว่า" การแข่งขันในวันนั้นเป็นการแข่งขันหน้าพระที่นั่งและเป็นการแข่งขันที่คนดูมากที่สุด เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่ง ถึงกับทรงมีรับสั่งภายหลังจากการแข่งขันว่าเป็นการแข่งขันที่สนุก ทั้งตันโจฮอค และข้าพเจ้า แข่งขันกันอย่างนักกีฬา มียิ้มหัวกันตลอดเวลาร่วมชั่วโมงที่ขับเคี่ยวกัน"
และยังมีอีกตอนหนึ่งในหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะสินเขียนไว้ว่า "เป็นบุญวาสนาของวงการแบดมินตันไทยเป็นอย่างยิ่ง ที่สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยมิเพียงแต่เป็นสมาคมที่อยู่ภายใต้พระอุปถัมภ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น แต่พระองค์ท่านยังทรงกีฬาแบดมินตันเป็นพระราชกิจวัตร และทรงโปรดปรานแบดมินตันอย่างชนิดจะหาพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกมาเปรียบเทียบมิได้ ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม วงการแบดมินตันไทยสมัยนั้นได้รับการอุ้มชูสนับสนุนอย่างดีที่สุด และพระนามของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา จึงมีความสัมพันธ์กับวงการแบดมินตันของไทยอย่างแน่นแฟ้นตราบเท่าทุกวันนี้" และตอนหนึ่งของหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะเขียนไว้ว่า "พวกเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้าเฝ้ากราบบังคมลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่นักแบดมินตันไทยทั้ง4 ให้พวกเรากระทำตนเป็นนักกีฬาที่ดี รักษาชื่อเสียงของประเทศชาติ และข้าพเจ้าเนื้อตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นและตื้นตันใจ เมื่อรับสั่งชมข้าพเจ้าว่า วันที่แข่งขันกับ ตันโจฮอก เจริญเล่นได้ดี เล่นได้สนุก ไม่เคร่งเครียด สมเป็นนักกีฬาที่ดี จากกระแสรับสั่งในครั้งนั้น ได้มีอิทธิพลอย่างมหาศาลทำให้ข้าพเจ้าเพิ่มความสนุกในการเล่นของตนเองเสมอ และทำให้เข้าใจซาบซึ้งถึงแก่นแท้และคุณค่าของคำว่า นักกีฬา
เพื่อนๆพี่ๆน้องสมาชิกทุกท่าน ตอนนี้ขบวนรถด่วนพิเศษเทคติกการเล่นเดียวจากหนังสืออาจารย์เจริญ วรรธนะสิน กำลังจะจอดเทียบชานชลาสถานี"มาเล่นแบดมินตันกันเถอะ" อันเป็นสถานีจุดหมายปลายทางของการก้าวขึ้นบันไดไปสู่ความสำเร็จประกาศว่าเป็นผู้ได้รับชัยชนะอย่างแท้จริง เรามาติดตามกันนะครับผม
หลักการเล่นเดี่ยวทั่วไป
1.นักเล่นเดี่ยวต้องมีความอดทนมีความเพียรที่จะตีตอบโต้กับคู่ต่อสู้โดยไม่ย่อท้อ ฝึกจิตใจให้แข็งแกร่งพร้อมอยู่เสมอที่จะขับเคี่ยวกับคู่ต่อสู้ แม้ว่าการตอบโต้แต่ละครั้ง จะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม ฝ่ายที่ขาดความเพียร ใจร้อน หรือใจฝ่อง่ายกว่า จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในที่สุด
2.การเล่นเดียวแต่ละเกม ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต้องวิ่งไล่ตีนับลูกเป็นพันๆครั้ง แต่ละครั้งต้องวิ่งเข้าออกหลายก้าว ผู้เล่นจึงต้องรู้จักอดออมแรงในการเคลื่อนย้ายตัวแต่ละครั้ง ซึ่งจะกระทำได้โดยปรับฟุตเวิร์คการเข้าออกของตนให้เป็นไปอย่างราบรื่นและนิ่มนวล ทำให้การเคลื่อนไหวตัวเมไปด้วยความง่ายดาย การผละออกและกลับเข้าสู่จุดศูนย์กลางแต่ละครั้ง จะหมดเปลืองพลังงานแต่น้อย
4.การตีลูกให้ถึงหลัง ไม่ว่าจะเป็นลูกงัดหรือลูกโยน และตีลูกให้ถึงมุมด้วยความแน่นอนแม่นยำเป็นหัวใจของการเล่นเดี่ยว ความแน่นอนในการบังคับลูกจะเกิดขึ้นได้ด้วยการฝึกนิสัยตนเองให้ตีลูกด้วยความละเอียด ตั้งใจ เต็มไปด้วยสมาธิ และนิสัยดังกล่าวนี้จะปลูกฝังในตัวผู้เล่นได้ก็โดยการบ่มเกลาเกมการเล่นของตนเองเป็นแรมปี ให้ดำเนินไปด้วยความจริงจัง ฝึกซ้อมด้วยความตั้งใจ เพื่อสร้างความเคยชินต่อสภาพอันเคร่งเครียดของการแข่งขันให้กับตัวเอง นักแบดมินตันที่ทลงสนามแข่งขันและเล่นไม่ได้ดีเท่ากับตอนซ้อม สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะเวลาฝึกซ้อมมิได้เล่นอย่างเอาจริงเอาจัง เมื่อมาพบกับสภาพอันตึงเครียด จังหวะการเล่นตลอดจนจิตวิทยาความนึกคิดไม่อญ่ในสภาพปกติทำให้เกมการเล่นเปลี่ยนไป
5.นักเล่นเดี่ยวที่ฉลาดจะเปลี่ยนวิธีการเล่นของตนเสมอ เพื่อให้เกมการเล่นมีความเหมาะสม และใช้ได้ผลกับคู่ต่อสู้แต่ละคน ซึ่งมีจุดอ่อนและจุดแข็งไม่เหมือนกันถ้าพบคู่ต่อสู้ที่มีลูกตบรุนแรง วิธีการเล่นก็ควรเปลี่ยนเป็นโยนลูกให้น้อยลง แม้กระทั่งลูกเสิร์ฟก็อาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็นการส่งลูกต่ำ พยายามดึงให้คู่ต่อสู้หันมาพะวงกับลูกหยอด หลีกเลี่ยงลูกโยนที่จะส่งให้คู่ต่อสู้ตบลูกได้ถนัด ถ้าพบกับฝรั่งช่วงยาวๆตัวสูงๆ การตบปีกซ้าย-ขวาอาจจะถูกเกี่ยวรับกลับข้ามมาหมด การใช้ลูกตบพุ่งเข้าหาลำตัว อาจจะทำให้ฝรั่งช่วงยาวแต่ตัวเก้งก้างรับลูกบริเวณลำตัวไม่ได้ ซึ่งการเปลี่ยนวิธีการเล่นต่างๆเกมเดี่ยวดังกล่าว ใช้ได้ผลมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และยังใช้ได้อยู่ทุกยุคทุกสมัย
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า เกมการเล่นเดี่ยวเป็นการทดสอบความอดทน นักแบดมินตันที่มีฝีมือดีอาจจะชนะคู่ต่อสู้ในเกมแรก แต่พอหมดแรงในเกมหลังๆก็อาจแพ้แก่นักแบดมินตันที่มีฝีมือด้อยกว่า แต่มีกำลังที่เหนือกว่าก็ได้ เคยปรากฏอยู่เสมอว่า ฝ่ายที่ทำคะแนนนำไปก่อนถึง20-10 ถูกฝ่ายหลังบี้ขึ้นมาจนทัน และพ่ายแพ้ในที่สุด
ผมขอคารวะอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน มาณที่นี้ด้วยครับ ที่นำความรู้สาระเทคติกที่ปรากฏในหนังสือดังกล่าวมาให้สมาชิกได้ศึกษากัน ซึ่งเป็นเศษเสี้ยวหนึ่งในหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ความรู้สาระในหนังสือยังมีอีกหลากหลายครับหวังว่าคงมีประโยชน์ต่อสมาชิกตั้งแต่มือฝึกหัด-มือสมัครเล่น-มืออาชีพ-มือชั้นเทพตำนานครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงมีโอกาสได้ถ่ายทอด-แลกเปลี่ยนทัศนะความคิดกับเพื่อนๆสมาชิกในโอกาสหน้า ขอบคุณครับ