สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าเป็นคนเขียนเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง ปกติก็ไม่ค่อยได้เขียนบรรยายอะไรให้ใครได้อ่านแต่อยากจะฝึกเขียน เลยเริ่มจากการเขียนรีวิวในสิ่งที่ชอบที่แหละครับ ดังนั้นหากอ่านแล้วไม่รู้เรื่องก้ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ก่อนเริ่มการรีวิวผู้เขียนขอชี้แจงรายละเอียดคร่าวๆของผู้เขียนเพื่อทำให้ผู้อ่านเห็นภาพโดยรวมก่อนนะครับ
ระดับการตีของผู้เขียน : ตีเกมในก๊วนทั่วไปได้ในระดับประมาณ (P,P+) เซฟ ตัด หยอด ตบได้ วางลูกเพื่อขึ้นหน้าได้
สไตล์การตี : เน้นตีเข้าใส่ที่ว่างเพราะแรงไม่ค่อยเยอะ เป็นผู้เล่นทั่วคอร์ทแต่หนักไปทางชอบเล่นด้านหน้า
ลักษณะไม้ที่ชอบ : จะเป็นพวกก้านกลางค่อนไปทางแข็งหนักหัวนิดๆ
ไม้ประจำก่อนมาใช้ Maxilite Champ : MX JJS 4U, BS12 3U
ระดับเอ็นที่ชอบขึ้น : 23-25lbs ไม่เคยขึ้นเกินนี้เพราะกลัวตีไม่ไป เคยขึ้น 25lbs ตีทีก็แทบลากเลือด
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
เริ่มแรกที่รู้จักแบรนด์ Pro-Tech คือเดินผ่านแล้วเห็น Shop อยู่ที่ Im Park จุฬาครับ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ จนได้มารู้จักกับคุณเจษเจ้าของร้านในก๊วนที่ไปตี เผอิญว่าช่วงนั้นเจ้าของกระทู้มีอาการเจ็บไหล่+กับไปธุระแถวนั้นพอดี ก็เลยเกิดอารมณ์อยากได้ไม้เบาๆมาแบ่งเบาภาระไหล่ เลยแวะไปเข้าไปดูที่ Shop ซะหน่อย ไปถึงก็เจอเจ้าของร้านพอดีเลย ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีครับ ผมก็จัดแจงบอกเลยอยากได้ไม้เบาๆ Specs คล้ายๆ Nanoray เพราะเป็นคนชอบเล่นลูกดาดรบกวนแนะนำไม้ที่ใกล้เคียงให้หน่อยครับ คุณเจษก็เลยแนะนำ Series Maxilite ให้เพราะเป็นซีรีย์ที่น้ำหนักเบามีทั้ง 6U และ 7U ซีรีย์นี้มีทั้งหมด 3 ตัวได้แก่ Champ สีดำแดง, Pro สีขาว และก็ Tour สีน้ำเงินส้ม เจ้าของกระทู้ก็เลยลองเหวี่ยงๆทั้งสามรุ่นเลย ตอนแรกก็แยกไม่ออกว่ามันต่างกันยังไง แต่คุณเจษบอกว่าลองน็อคดูได้ครับมีขึ้นเอ็นไว้ให้ลองหมดแล้ว ทันใดนั้นเจ้าของกระทู้ก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าที่ Shop Protech มีพื้นที่ให้ลองน็อคลูกด้วย (น็อคกับกำแพงนะครับ) จากการลองน็อคทั้งสามรุ่นก็พอจะสรุปความรู้สึกได้ตามนี้ครับ (เวลาลองผมลองเปรียบเทียบสามตัวนี้นะครับ)
Champ สีดำแดง – ผมลองตัวนี้เป็นตัวแรกครับ แอบชอบตัวนี้เป็นทุนเดิมด้วยสีที่ดำด้าน สลับแดง ดูดีมีสไตล์ อิอิ ความรู้สึกแรกที่ดาด ลูกออกไปมีน้ำหนักดีมากครับ ทำได้ต่อเนื่องดีไม่ค่อยสะดุด พอจับปุ้ปถึงกับติดใจเลย แต่ไหนๆก็มาแล้วต้องลองให้ครบครับ
Tour สีน้ำเงินส้ม – หัวจะหนักที่สุดครับตีแล้วลูกออกแน่นมากแต่จังหวะดาดต่อเนื่องยังสู้ตัว Champ ไม่ได้ครับ ความรู้สึกส่วนตัวชอบตัว Champ มากกว่า
Pro สีขาว - การดาดทำได้ค่อนข้างดีครับออกลูกได้หนักสูสีกับตัว Champ เลยแถมหัวไม้ยังเป็นสันเหลี่ยมแนว Brave Sword อีกสงสัยจะออกแบบมาสำหรับคนชอบเล่นหน้าโดยเฉพาะตอนออกลูกจะรู้สึกถึงการดีดของก้านนิดนึง น่าจะมาจากก้านที่ไม่แข็งมากเล่นเอาแอบลังเลนิดนึง ตีสลับไปมาระหว่าง Champ กับ Pro อยู่นานมาก สุดท้ายก็เลือกตัว Champ ครับ เพราะส่วนตัวตี Brave Sword ทีไรชอบเอาสันดาบเฉาะขาตัวเองเลือดออกซิบๆประจำ เลยขอผ่านละกันครับ 55 สรุปก็เลยได้ตัว Maxilite Champ มาครับ พร้อมแถมเอ็นของ Pro Tech เสร็จสรรพ ด้วยความไม่เคยใช้เอ็นยี่ห้ออื่นมาก่อนก็เลยบอกคุณเจษไปว่าขอเอ็นแนว 66um แล้วกันนะครับ คุณเจษก็เลยจัดมาให้ผมก็จำรุ่นไม่ได้ซะด้วย และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตการตีแบดของผม เมื่อคุณเจษถามว่า “เอากี่ปอนด์ดีครับ” ไม่รู้ว่าวินาทีนั้นผีบอกหรือเจ้าของร้านยุ จัดไปครับ 28 ปอนด์ (ทั้งชีวิตไม่เคยคิดจะขึ้น ไหนๆเอ็นก็ฟรี ขอลองหน่อยละกันว่ะ )
หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นใน Im Park แล้วก็มารับไม้ครับ ตอนได้ไม้มาก็ลองเอาไปน็อคที่บอร์ดอีกครั้งครับ วินาทีแรกที่ลองต้องบอกว่า โอ้วโห เด้งมาก ยิ่งกระแทกเน้นๆ นี่ลูกพุ่งมากครับ อดใจจะเอาไปทดลองที่คอทไม่ไหวเลย
เนื่องจากว่า Maxilite Champ เป็นมี่เบาแตกต่างจาก MX JJS พอสมควร ดังนั้นเจ้าของกระทู้จึงให้เวลาร่างกายได้ทำการปรับตัวกับกระบี่เล่มใหม่เสียหน่อย โดยการใช้แต่ไม้นี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ครับ ซึ่งภายหลังจากการใช้มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ก็ขอสรุปได้ดังนี้ครับ
Pro-Tech : Maxilite Champ
Weight - 7U (70gm)
Credit รูป : จาก Protech Shop ด้วยนะครับ พอดีไม่สะดวกถ่ายเอง
ลูกดาด 10/10 – ดาดได้ค่อนข้างดีครับ ด้วยความเป็นไม้ที่เบาแต่มีนน.ที่หัวหน่อยนึง ทำให้การดาดเป็นเรื่องที่สนุกมาก กระแทกมันส์มากครับชอบเลย
ลูกตัด 8/10 – ตอนแรกที่ตี ตัดแล้วโชยมากครับ คนเล่นหน้าหน้าแทบแหกไปหลายรอบ T-T แต่พอเริ่มชินไม้ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีครับ สั่งไปทางไหน ไปได้ตลอด อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเอ็นที่ขึ้นมา 28 ปอนด์ด้วยรึเปล่า
ลูกตบ 9/10 – การยืนตบแบบเต็มวงทำได้ค่อนข้างดีครับ สปีดลูกที่ออกไปเร็วมาก ส่วนการสะบัดข้อตบอย่างตบเคาะเพื่อเอาทิศทางก็ทำได้ค่อนข้างดีครับอาจเป็นเพราะไม้ไม่หนักมาก แต่ปกติเป็นคนตบไม่ค่อยหนักอยู่แล้วครับจะเน้นตบๆแล้วซ้ำเอาดาบ 2 ดาบ 3 ซะมากกว่า ซึ่งการซ้ำดาบ 2 ดาบ 3 ทำได้ค่อนข้างต่อเนื่องดีครับ
ลูกเซฟ 8/10 – ถ้ายืนเซฟในลักษณะยืนตี ตีได้ค่อนข้างดีครับ ในบางจังหวะทีต้องวิ่งตีหรือหงายหลังตีเพื่อแก้ไขลูกการสบัดข้อมืออย่างเดียวก็พอจะส่งลูกไปถึงกลางค่อนหลังได้ สงสัยเป็นเพราะก้านที่ดูเหมือนแข็งแต่กลับรู้สึกว่าค่อนข้างดีดอาจจะช่วยในส่วนนี้
สรุป
ไม้ Maxilite Champ นั้นตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดีสำหรับผู้เล่นประเภท All-around ครับ การดาด การเล่นบุกและรับ ผมถือว่าไม้นี้ตอบสนองได้หมด แต่เด่นที่สุดผมยกให้เป็นลูกดาดเพราะหลังจากจับไม้นี้ปุ้ป รู้สึกได้ว่าอยากจะกระแทกลูกกลับทุกลูกเลยทีเดียวที่สำคัญคืออาการปวดไหล่หน้าตึงๆที่เวลาเล่นเสร็จด้วย JJS กลับไม่ปรากฏเวลาที่ผมเล่นไม้นี้ครับ ผมลองให้เพื่อนที่ก๊วนตีทุกคนก็ชอบใน Feeling ของไม้นะครับ ถ้าใครอยากได้ไม้ตีสบายๆในสไตล์แบบที่ผมบอกในราคาแบบไม่หนักมากก็ลองพิจารณาเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้ครับ ซึ่งตอนนี้ Maxilite Champ ก็ประจำการเป็นไม้หลักของผมเรียบร้อยแล้วครับ ไม้อื่นๆก็นอนนิ่งในกระเป๋าแบดยาวๆกันไป…เอวัง ณ ประการละฉะนี้
ปล.การรีวิวเป็นความรู้สึกโดยอิงกับประสบการณ์ส่วนตัวนะจ้ะ
**เพิ่มเติมครับ ตอนนี้ผมมีเปิดกลุ่มสำหรับคนที่ใช้ไม้ Protech อยู่เอาไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ ถ้าใครใช้ไม้ Protech หรือต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับไม้ Protech เพิ่มเติม ก็เรียนเชิญเข้าร่วมนะครับ**>>Protech Thailand Community<< (ชุมชนคนใช้ Protech)